โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

EU หวนใช้คาร์บอนเครดิตนานาชาติในรอบ 12 ปี ดันอาเซียนรับโอกาสใหม่สู่เวทีโลก

เดลินิวส์

อัพเดต 22 สิงหาคม 2568 เวลา 19.34 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ตลาดเปลี่ยนทิศ! บทบาทและโอกาสของไทย หลัง EU เสนอกลับมาใช้คาร์บอนเครดิตจากนานาชาติ

สหภาพยุโรป (EU) กำลังส่งสัญญาณครั้งสำคัญต่ออนาคตตลาดคาร์บอนโลก หลังคณะกรรมาธิการยุโรปเสนอแผนให้ประเทศสมาชิกสามารถกลับมาใช้คาร์บอนเครดิตจากนานาชาติได้อีกครั้งในปี 2036

นับเป็นการเว้นช่วงยาวนานกว่า 12 ปี การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จึงถูกมองว่าจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อย 90% ภายในปี 2040 เมื่อเทียบกับระดับปี 1990 เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ตามพันธกรณีความตกลงปารีส

‘กลอยตา ณ ถลาง’ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธาน Carbon Markets Club เผยมุมมองต่อประเด็นดังกล่าวว่า แม้สัดส่วนการใช้คาร์บอนเครดิตที่กำหนดไว้จะอยู่ที่เพียง 3% ของเป้าหมายปี 2040 ทว่าในเชิงปริมาณแล้วคิดเป็นหลายร้อยล้านตัน ซึ่งมากพอที่จะผลักดันการลงทุนข้ามพรมแดนและสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดคาร์บอนโลก

อย่างไรก็ตาม กลอยตาชี้ว่า เครดิตที่สหภาพยุโรปจะเปิดรับต้องเป็น ‘คาร์บอนเครดิตคุณภาพสูง’ ภายใต้กลไกขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะระบบ Article 6.4 ของความตกลงปารีส ซึ่งมุ่งสร้างตลาดที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และป้องกันการนับซ้ำ โดยกล่าวว่า “คาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพไม่ใช่เพียงตัวเลขในบัญชี แต่ต้องพิสูจน์ได้ว่าเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจริงเพราะแรงจูงใจจากเครดิต มีการวัดผลและรายงานอย่างเข้มงวด และแสดงผลกระทบร่วมต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม”

การกลับมาใช้กลไกคาร์บอนเครดิตของยุโรปจึงไม่ใช่เพียงแค่การซื้อเครดิตเพื่อนำไปชดเชยการปล่อย แต่เป็นการสร้างเครื่องมือเสริมที่ต้องเชื่อมโยงกับการลดการปล่อยจริงภายในประเทศ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเป็นธรรม ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ประเทศในกลุ่ม Global South รวมถึงอาเซียน เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตลาดคาร์บอนโลก

ซึ่งกลอยตาอธิบายต่อว่า Global South คือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่แม้จะมีประวัติการปล่อยก๊าซน้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้ว แต่กลับเผชิญผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง น้ำท่วม หรือการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ

“การเปิดรับเครดิตจากนอกภูมิภาคของยุโรป จึงเป็นโอกาสในการดึงเงินทุนจากภาคเอกชนประเทศพัฒนาแล้ว มาลงทุนในโครงการที่มีคุณภาพในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ เสริมศักยภาพท้องถิ่น และขับเคลื่อนเป้าหมายความยั่งยืนร่วมกัน” กลอยตากล่าวเสริม

ในบริบทของอาเซียน ความร่วมมือเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กำลังถูกวางรากฐานผ่านASEAN Common Carbon Framework (ACCF) ซึ่งมุ่งสร้างมาตรฐานร่วมและการเชื่อมโยงตลาดคาร์บอนในภูมิภาค โดยมีการกำหนดหลักการรับรองคุณภาพเครดิตเพื่อให้ตอบสนองต่อมาตรฐานสากล ซึ่ง Carbon Markets Club ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนไทย ก็มีบทบาทร่วมผลักดันการพัฒนากรอบนี้ ควบคู่กับการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ

การเคลื่อนไหวของสหภาพยุโรปครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการกลับมาของตลาดคาร์บอนนานาชาติ แต่ยังเป็นแรงกระตุ้นให้อาเซียนเร่งยกระดับมาตรฐาน กฎระเบียบ และกลไกตรวจสอบ เพื่อก้าวสู่การเป็นแหล่งผลิตคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่ตลาดโลกยอมรับ

“หนทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งด้านกฎระเบียบและความพร้อมของประเทศในภูมิภาค แต่เป็นความท้าทายที่ควรค่าแก่การขับเคลื่อนร่วมกัน เพื่อให้ตลาดคาร์บอนอาเซียนก้าวขึ้นมาเป็นกลไกสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการเดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” กลอยตา ณ ถลาง กล่าวทิ้งท้าย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

‘สว.วุฒิพงศ์’ ปิ๊งไอเดียรอง ‘เท้านิลมังกร’ ป้องกันทหารขาขาดจากทุ่นระเบิด

12 นาทีที่แล้ว

‘ทหาร’ คุมเข้มแนวชายแดนไทย หลัง ‘พม่า’ โจมตี ‘ชนกล่มน้อย’ ส่งโดรนถล่มโรงเรียน

13 นาทีที่แล้ว

กปน. ปรับโฉมแอปพลิเคชัน MWA onMobile Version 3 เริ่มดาวน์โหลดพร้อมกัน 25 ส.ค. 68 นี้

14 นาทีที่แล้ว

‘โค้ชวัง’ เผยเหตุไร้ชื่อ ‘เอราวัณ’ คัดเอเชีย และจะไม่เตะซีเกมส์ด้วย

14 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ลงนามบันทึกความร่วมมือ พัฒนาความรู้และศักยภาพผู้ประกอบการไทย

The Better

“บอนด์ยีลด์จีน” อายุ 30 ปี พุ่งสูงสุดรอบ 8 เดือน สะท้อนแรงกดดันตลาดตราสารหนี้

การเงินธนาคาร

โตโยต้า ปักราคารถอีวีใหม่ ราคาสตาร์ทกว่า 1.5 ล้านบาท เปิดรับจองสิทธิ NEW bZ4X ประกอบจากญี่ปุ่นเข้าประเทศไทย

BTimes

ส่องต้นทุน "ไข่เจียวปู" ใช้วัตถุดิบอะไร และราคาเท่าไหร่

sanook.com

กอช. ยกระดับ “หวยเกษียณ” ผนึกกำลัง ทรูมันนี่-AIS-ShopeePay ซื้อง่ายผ่านแอปฯ คาดเริ่มธันวาคม 2568

TNN ช่อง16

จีนประกาศหนุนอินเดีย‘ยืนหยัด’สู้ภาษีทรัมป์กระชับสัมพันธ์สองยักษ์เอเชีย

Amarin TV

ทอท. เคาะ 5.7 พันล. สร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ สนามบินแม่ฟ้าหลวง รองรับนทท. 6 ล้านคน

MATICHON ONLINE

เงินเฟ้อญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.1 คาดBOJขึ้นดอกเบี้ย

JS100

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...