กองทุน ETF สะท้อนความเชื่อมั่น สถาบันยังคงลงทุนใน Ethereum
#Ethereum #ทันหุ้น – ข้อมูลจาก Cointelegraph ได้ระบุว่า ตามข้อมูลจาก SoSoValue ซึ่งเป็นผู้ติดตาม ETF คริปโตฯ ระบุว่า กองทุน Ethereum Spot ETF ของสหรัฐฯ มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 287.6 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสิ้นสุดช่วงขาดทุนต่อเนื่องสี่วันก่อนหน้านี้
การฟื้นตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทุนเหล่านี้ขาดทุนไปกว่า 924 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ศุกร์ที่แล้วจนถึงวันพฤหัสบดี โดยการขาดทุนครั้งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร ด้วยยอดไหลออกสุทธิ 429 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการไหลออกรายวันที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเดือนนี้ รองจากยอด 465 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม
iShares Ethereum Trust (ETHA) ของบริษัทจัดการสินทรัพย์BlackRock เป็นผู้นำในวันนั้นด้วยเงินไหลเข้า 233.5 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยFidelity Ethereum Fund (FETH) ที่มีเงินไหลเข้า 28.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุน ETF อื่นๆ มีเงินไหลเข้าสุทธิเฉลี่ยประมาณ 6 ล้านดอลลาร์
การไหลเข้าของเงินทุนครั้งใหม่นี้ทำให้ยอดรวมเงินไหลเข้าสุทธิสะสมสูงกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ถึงความต้องการของนักลงทุนที่กลับมาอีกครั้งหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีการถอนเงินออก
ยอดรวมสำรอง ETF แตะ 2.766 หมื่นล้านดอลลาร์
ตามข้อมูลจาก Strategic ETH Reserve (SER) กองทุน Ethereum Spot ETF ถือครอง ETH รวมกัน 6.42 ล้าน ETH มูลค่า 2.766 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยผลิตภัณฑ์การลงทุนเหล่านี้มีเงินไหลเข้ารายวันสุทธิ 66,350 ETH ทำให้ยอดการถือครองสำรองรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5.31% ของอุปทาน Ether ที่หมุนเวียนอยู่
นอกจาก ETF แล้ว ทุนสำรองของบริษัทและสินทรัพย์ที่ถือครองระยะยาวที่กระจายอยู่ในสถาบันหลักๆ ยังคงอยู่ที่ 4.10 ล้าน ETH ซึ่งมีมูลค่า 1.766 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยข้อมูลจาก SER ระบุว่าการถือครองนี้คิดเป็น 3.39% ของอุปทาน Ether
บริษัทอย่างSharpLink Gaming ยังคงรักษากระแสการซื้อ ETH ครั้งใหญ่ โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทได้ ซื้อ Ether มูลค่า 667 ล้านดอลลาร์ ในช่วงที่ราคาสูงเกือบทำสถิติ ซึ่งทำให้ยอดการถือครองรวมเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 740,000 ETH มูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน SharpLink เป็นผู้ถือครอง ETH ในบัญชีคลังที่ใหญ่เป็นอันดับสอง รองจาก Bitmine Immersion Tech ซึ่งถืออยู่ 1.5 ล้าน ETH
ชาว Reddit ถกเถียงว่าการซื้อ ETH ขององค์กรเพิ่มมูลค่าจริงหรือไม่
การกระจุกตัวของ ETH ในสถาบันขนาดใหญ่ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงในหมู่สมาชิกชุมชนออนไลน์ โดยบางคนตั้งคำถามว่าการซื้อ ETH ขององค์กรต่างๆ เพิ่มมูลค่าที่แท้จริงให้กับระบบนิเวศหรือไม่
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้ใช้งาน Reddit รายหนึ่งได้ ตั้งกระทู้ ถามว่าการ “กักตุน” ETH ของบริษัทต่างๆ เพิ่มมูลค่าให้กับ Ethereum ซึ่งพวกเขาเข้าใจว่าเป็นรากฐานของ Decentralized Finance (DeFi) ได้อย่างไร
สมาชิกชุมชนรายหนึ่ง กล่าว ว่าผลกระทบเชิงบวกอยู่ที่ราคา ซึ่งจะช่วยลดอุปทานที่หมุนเวียน และเสริมว่า ETH ที่สถาบันซื้ออาจถูกนำไป Staking ซึ่งจะช่วยหนุนเครือข่าย
อย่างไรก็ตาม สมาชิกอีกราย ไม่เห็นด้วย โดยระบุว่าเครือข่ายมี Staker มากเกินพออยู่แล้ว และการเพิ่มอีกก็ไม่ได้ช่วยอะไร สมาชิกรายนี้โต้แย้งว่าการมี Staker เพิ่มเติมจากหน่วยงานรวมศูนย์ยังลดความเป็น Decentralization ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในคุณค่าหลักของเครือข่าย
ผู้ใช้งาน Reddit อีกคน กล่าว ว่าชุมชน ETH ควรจะมองว่าสิ่งนี้เป็นชัยชนะ เพราะมันดึงดูดความสนใจมายัง ETH ทำให้สินทรัพย์มีมูลค่ามากขึ้น และเมื่อ ETH มีราคาสูงขึ้น ประโยชน์ใช้สอยของ DeFi ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจาก ETH ทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์พื้นฐานในหลายๆ โปรโตคอล
ที่มา https://cointelegraph.com/news/spot-ether-etfs-287m-inflows-blackrock-fidelity-eth-reserves