“กระทรวงอว.”ชู ELP ปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่สู่ระดับโลก!
โครงการการเรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อเร่งการเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมจากมหาวิทยาลัยใน เครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศ(ELP) คือโครงการสำคัญของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ในการส่งเสริมและพัฒนานักศึกษาและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยให้ก้าวสู่การเป็นสตาร์ทอัพ
“ELP เป็นโครงการที่กระทรวง อว.จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 เพื่อสร้างและสนับสนุนนักศึกษาและนักวิจัยให้พัฒนาไปสู่การเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและจัดให้มีการเรียนรู้ในรูปแบบการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential Learning) ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาและสตาร์ทอัพจากมหาวิทยาลัยไทยได้ลงพื้นที่ในต่างประเทศ เพื่อสัมผัสสภาพตลาดจริงอย่างใกล้ชิด โดยอยู่ภายใต้การบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรมตามแนวทางของมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ (Entrepreneurial Unvierstiy)” น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.กระทรวง อว.กล่าวถึงความสำคัญของโครงการ ELP
รมว.กระทรวง อว. กล่าวต่อว่า ELP ได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของ Babson University ที่พิสูจน์แล้วว่าการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงเป็นกลไกสำคัญในการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีทักษะในการประยุกต์ใช้ความรู้กับธุรกิจในโลกความจริง การเรียนรู้ผ่านโครงการ ELP จะช่วยให้นักศึกษาได้พัฒนามุมมองด้านธุรกิจและนวัตกรรม ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศและระดับสากล ผ่านความร่วมมือกับ University Incubators และ Startup Partners จากต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสและศักยภาพในการเติบโตและประสบความสำเร็จของสตาร์ทอัพนักศึกษาของไทยในอนาคต
ขณะที่กระบวนการปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ กระทรวง อว.โดยสำนักงานปลัดกระทรวง อว.มีการทำงานร่วมกับเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษา 16 แห่งทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันใน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับมหาวิทยาลัย ระดับภูมิภาคและระดับประเทศผ่านกระบวนการนำเสนอผลงาน (Pitching)
ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว.ในฐานะคณะกรรมการตัดสินการนำเสนอผลงาน (Pitching) ระดับประเทศ กล่าวว่า โครงการ ELP ได้คัดเลือกตัวแทนในระดับประเทศ นักศึกษาที่เข้าร่วมจะได้ฝึกทักษะด้านการวิเคราะห์ตลาด การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการนำเสนอแนวคิดทางธุรกิจ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาแผนธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการทดลองนำสินค้าและบริการไปผ่านกระบวนการ Market Validation ในต่างประเทศ
“การคัดเลือกเพื่อตัวแทนในโครงการ ELP มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้าร่วม Pitching กว่า 850 คนและคัดเลือกให้เหลือ 80 คนและ 38 คนสุดท้ายที่จะได้เดินทางไปเรียนรู้ประสบการณ์จริงในการเตรียมตัวเป็นผู้ประกอบการในต่างประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสาธารณรัฐเกาหลี” ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าว
สำหรับโครงการ ELP ปีที่ 1 และ 2 ที่ผ่านมาได้สร้างสตาร์ทอัพที่ผ่านการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงจากตลาดโลกและประสบความสำเร็จในการต่อยอดได้ทุนไปประกอบธุรกิจหลังจบโครงการ โดยโครงการ ELP ปีที่ 1 ได้แก่ 1.นายอภิเทพ ปิยพิพัฒนมงคล นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม 2.นายพชร เชิดชัย นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีบริการ/ผลิตภัณฑ์ตรวจลักษณะพิเศษของพืชและสัตว์ด้วย DNA3.นายศรันย์ โครานา นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสตาร์ทอัพบริการตัดสูทตามสัดส่วนเฉพาะตัว 4.นายอติภูมิ ชิชัยยาง นักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเป็นสตาร์ทอัพด้านการผลิตสาโทจากผลไม้พื้นบ้านในภาคอีสาน 5.ดร.พิพัฒน์ ปรมาพิจิตรวัฒน์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสตาร์ทอัพ พัฒนา PlasOne,เครื่องพลาสมาเย็นเพื่อการฟื้นฟูเส้นผม และ6.นายสิเมโอน ทศวงศ์วรรษ นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นสตาร์ทอัพ พัฒนา Zulu One อากาศยานไร้คนขับเฉพาะกิจ
โครงการ ELP ปีที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จได้แก่ 1.นายชาคริต เซลามัน นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นสตาร์ทอัพผลิตและจำหน่ายเครื่องเทศทุกชนิด 2.นายฐปกร โครานา นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสตาร์ทอัพการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช 3.นายไกรวิชญ์ วินิจชีวิต นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นสตาร์ทอัพพัฒนา AI ช่วยวิเคราะห์คุณภาพของเนื้อวัว 4.นายวรพล ยิ่งยืน นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นสตาร์ทอัพพัฒนาสเปรย์ฉีดรองเท้ากันน้ำและฝุ่นด้วยเทคโนโลยีนาโน 5.น.ส.สุธาสินี ไตรทิพย์ตระกูล นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นสตาร์ทอัพพัฒนา Fexcel บริการ Plug-in สำหรับ Excel ที่สามารถเเปลงประโยคทั่วไปให้เป็นสูตรคำสั่ง
“โครงการ ELP เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญของกระทรวง อว.ที่มุ่งเสริมสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ให้มีทักษะรอบด้าน ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในยุคเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม พร้อมก้าวสู่เวทีระดับโลกอย่างมั่นคง” ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าว