ไฟไหม้วอด ‘อี้ง้วน’ ปิดตำนานโรงแรมดังสระบุรีเก่าแก่กว่า 50 ปี
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 22.30 น. วานนี้ (5 ส.ค.) ศูนย์วิทยุอาสาสมัครกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถาน สระบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุเพลิงไหม้ "โรงแรมอี้ง้วน" ตั้งอยู่บริเวณซอยหลังสถานีรถไฟ จ.สระบุรี จึงแจ้งให้ พ.ต.ท.ไพฑูรย์ พันธุ์กล้วยไม้ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระบุรี ทราบ พร้อมประสานไปยังงานป้องกันเทศบาลเมืองสระบุรี ขอสนับสนุนรถดับเพลิง รถน้ำ และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างรัตนตรัย สระบุรี มาช่วยดับเพลิงเป็นการเร่งด่วน
ต่อมา ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต “นายกคล้าย” นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี รุดมายังที่เกิดเหตุพร้อมรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองสระบุรี พบจุดเกิดเหตุเป็นอาคารสองชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ ปลูกติดกันจำนวน 11 คูหา ไฟกำลังลุกลามจากชั้นล่างใกล้จุดห้องน้ำของอาคารห้องที่ 8 ไปยังห้องอื่นๆ อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นอาคารไม้มีสภาพเก่าแก่จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ท่ามกลางความตกใจของชาวตลาดที่อยู่ข้างเคียง
ดร.ภาณุพงศ์ จึงวิทยุสั่งการให้นำรถดับเพลิงและรถน้ำ จำนวนมาก พร้อมด้วยรถบันไดยกสูงมาเสริมการปฏิบัติงานด้วยการต่อสายดับเพลิงช่วยฉีดน้ำจากด้านบนลงมา ช่วยฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงไปตามห้องพักที่กั้นเป็นห้องๆ บริเวณชั้นบน ส่วนรถดับเพลิงอีกจำนวนหนึ่งได้เข้าไปในรั้วของที่ทำการไปรษณีย์ (ปากเพรียว) ที่อยู่ติดกันด้านหลัง ระดมช่วยฉีดน้ำดับเพลิงอีกทางหนึ่ง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้
ขณะเกิดเหตุ นายเลิศชาย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี นายอรรถการณ์ จิตถวิล นายอำเภอเมืองสระบุรี นายวัฒนพงศ์ วงษ์กิจจาเลิศ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สระบุรี รุดมายังที่เกิดเหตุ ร่วมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ (ดับเพลิง) ด้วยความห่วงใย พร้อมสอบถามเหตุการณ์ว่า มีผู้ได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือไม่
ดร.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นๆ ด้วยที่มาช่วย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังไล่กลุ่มควันอยู่ ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว ที่เกิดเหตุเป็นอาคารไม้เก่าที่ก่อสร้างมาน่าจะ 40-50 ปี ซึ่งจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า จุดเกิดเหตุเริ่มจากบริเวณใกล้ห้องน้ำชั้นล่างของอาคารห้องที่ 7 แล้วลุกลามไปยังจุดอื่นๆ อย่างรวดเร็ว ในชั้นนี้ทราบเพียงว่ามีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเป็นหญิง เนื่องจากตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องเอกซเรย์เข้าเคลียร์พื้นที่โดยละเอียด ส่วนสาเหตุคงต้องรอให้พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับค่าเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน.