ทรัมป์คุยฟุ้งรีดภาษี‘ยา’สูงลิบ 250% บีบให้ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ พร้อมระบุขึ้นภาษีเซมิคอนดักเตอร์อาทิตย์หน้า
ทรัมป์ประกาศเริ่มเก็บภาษีนำเข้า “ยา” เพียงเล็กน้อย ก่อนขึ้นเป็น 150% ใน 18 เดือนและ 250% ในท้ายที่สุด เพื่อดึงดูดบริษัทเวชภัณฑ์เข้าไปลงทุนในอเมริกา ขณะเดียวกันก็คุยฟุ้งญี่ปุ่นกำลังจะเริ่มนำเข้า “เอฟ-150” รถกระบะยอดนิยมในสหรัฐฯของค่ายฟอร์ด ถึงแม้ข้อตกลงการค้ากับโตเกียวยังมีหลายส่วนที่ไม่ชัดเจน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี โทรทัศน์ช่องการเงินของสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร (5 ส.ค.) ว่า อย่างช้าที่สุดภายในปีครึ่ง จะปรับเพิ่มภาษีนำเข้ายาเป็น 150% และหลังจากนั้นก็จะเป็น 250% เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้มีการผลิตยาภายในประเทศ
ทรัมป์ยังไม่ได้ระบุอัตราภาษีศุลกากรขั้นต้นสำหรับยา ที่ว่าเล็กน้อยนั้นคือแค่ไหน แต่เมื่อเดือนที่แล้วเคยประกาศว่า ตัวเลขสุดท้ายอาจสูงถึง 200% หรือหากย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ เขาเคยบอกว่า ภาษีศุลกากรสำหรับภาคเวชภัณฑ์และเซมิคอนดักเตอร์อาจเริ่มต้นที่ 25% เป็นต้นไป และเพิ่มขึ้นสูงมากภายใน 1 ปี
ในวันอังคาร ผู้นำสหรัฐฯ ยังเผยว่า มีแผนประกาศอัตราภาษีเซมิคอนดักเตอร์และชิปภายในสัปดาห์หน้าหรือหลังจากนั้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เวลานี้คณะบริหารทรัมป์กำลังสั่งตรวจสอบอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ในแง่มุมความกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งชาติ ขณะที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ก็มีการเตรียมพร้อมรับมือแนวโน้มที่จะมีการขึ้นภาษีเฉพาะอุตสาหกรรม โดยบริษัทยาหลายแห่งประกาศแผนการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในอเมริกา ตัวอย่างเช่น แอสตราเซเนกาที่เมื่อเร็วๆ นี้เผยว่า จะขยายปฏิบัติการในอเมริกาด้วยเงินทุน 50,000 ล้านดอลลาร์
ทรัมป์นั้นประกาศเก็บภาษีศุลกากรพื้นฐานอัตรา 10 % จากพวกประเทศและดินแดนที่เป็นคู่ค้าแทบทุกรายตั้งแต่เดือนเมษายน และทยอยประกาศอัตราภาษีศุลกากรต่างทอบแทน ที่มีอัตราลดหลั่นกันไปตั้งแต่ 10% จนถึง 50% จากพวกคู่ค้าหลายสิบราย โดยที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (7) นี้
นอกจากนั้นแล้ว ทรัมป์ยังมีการประกาศเก็บภาษีศุลกากรสำหรับเฉพาะบางภาคอุตสาหกรรมและเฉพาะบางสินค้า เป็นต้นว่า เหล็กกล้า อะลูมิเนียม ทองแดง ยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งยา และชิป ก็จะอยู่ในข่ายนี้ ทั้งนี้ มีบางประเทศเหมือนกัน ซึ่งเมื่อสามารถทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ที่มีการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรต่างตอบแทนที่สินค้าเข้าจากประเทศเหล่านี้จะถูกเก็บ รวมทั้งการให้สิทธิพิเศษอื่นๆ แก่สหรัฐฯ ก็ได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีศุลกากรสำหรับอุตสาหกรรม-สินค้าเฉพาะอย่าง
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีคราวนี้ ทรัมป์กล่าวคาดหมายว่า จะขึ้นภาษีสินค้าอินเดียสูงมากภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า เนื่องจากอินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักที่มอสโกนำไปใช้ในปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
ประมุขทำเนียบขาวยังเตือนว่า อาจขึ้นภาษีศุลกากรสหภาพยุโรป จากอัตราล่าสุดที่ 15% หากบรัสเซลส์ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าที่ทำกันไว้
นอกจากนั้น ทรัมป์ยังคุยว่า ญี่ปุ่นจะเริ่มนำเข้ารถกระบะเอฟ-150 ของฟอร์ดที่ครองใจคนอเมริกันมายาวนาน ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ประกาศเมื่อปลายเดือนที่แล้วที่ระบุว่า โตเกียวจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่างตอบแทนเพียง 15% ลดจาก 25% ที่ทรัมป์ขู่ไว้ โดยแลกกับการที่ญี่ปุ่นยอมยกเลิกข้อจำกัดสำหรับรถนำเข้าจากอเมริกา ซึ่งรวมถึงการยอมรับมาตรฐานความปลอดภัยด้านยานยนต์ของสหรัฐฯ
ในปัจจุบัน บริษัทญี่ปุ่นขายรถในอเมริกาได้ปีละหลายล้านคัน แต่แทบไม่ค่อยเห็นรถอเมริกันวิ่งบนถนนญี่ปุ่น โดยเห็นกันว่า สาเหตุสำคัญอาจเนื่องจากรถอเมริกันใหญ่เกินไปสำหรับถนนญี่ปุ่น แถมยังติดตั้งพวงมาลัยด้านขวา ขณะที่การจราจรในแดนอาทิตย์อุทัยให้รถชิดทางซ้าย สำหรับฟอร์ดนั้นถอนตัวจากตลาดนี้มาเกือบสิบปีแล้ว
ขณะเดียวกัน ดูเหมือนโตเกียวและวอชิงตันยังมีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับรายละเอียดสำคัญของข้อตกลงการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำหนดเวลาในการบังคับใช้ภาษีศุลกากรรถญี่ปุ่นที่ตามข้อตกลงจะลดลงอยู่ที่ 15% จาก 27.5% ในขณะนี้
เวลานี้เมื่อการเจรจาทำดีลการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่เสร็จสิ้นไปแล้ว เรื่องใหญ่ทางเศรษฐกิจที่ผู้คนจับจ้องกันก็คือ มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ซึ่งสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก จะส่งผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจอเมริกาเอง โดยเฉพาะในเรื่องราคาสินค้าที่ส่งผลโดยตรงต่ออัตราเงินเฟ้อ ภาวการณ์จ้างงาน และอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ
ขณะที่บริษัทต่างๆ แสดงท่าทีระมัดระวังในการจ้างงานและการลงทุน ควบคู่กับการหาทางรับมือนโยบายการค้าของทรัมป์ที่มีการพลิกผันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO