DRT โชว์รายได้รวม Q2/68 กว่า 1,223 ลบ. ชี้พื้นฐานแกร่งแม้เศรษฐกิจชะลอตัว จ่อเสนอบอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา บริการติดตั้งโครงหลังคาสำเร็จรูปและกระเบื้องหลังคา พื้น บันได และผนังพร้อมบริการติดตั้ง 'SPC Solutions' แบบครบวงจร ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นขยายตลาดส่งออกและทำการตลาดเชิงรุกภายในประเทศ เพื่อขยายตลาดใหม่และขยายฐานลูกค้าสู่จังหวัดเมืองรอง
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างยังคงชะลอตัว อัตราหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ตลอดจนราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น จึงทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,223.81 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 96.56 ล้านบาท ชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม - มิถุนายน) บริษัทฯ ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ที่เป็นนวัตกรรมพร้อมบริการในรูปแบบโซลูชัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารและที่อยู่อาศัย ส่งผลให้สามารถรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยอยู่ที่ 80% อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,585.20 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 202.68 ล้านบาท ชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างและตกแต่งภายในประเทศครึ่งปีหลัง มีความท้าทายจากปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคที่คาดว่ายังคงชะลอตัวหรือฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงความไม่สงบแนวชายแดน บริษัทฯ จึงวางแผนเชิงรุกมุ่งเพิ่มยอดขายจากการส่งออกสินค้าในภูมิภาคอาเซียนที่เป็นตลาดหลักอย่างต่อเนื่อง อาทิ ฟิลิปปินส์, เมียนมา, เวียดนาม, สปป.ลาว ฯลฯ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเศรษฐกิจกำลังเติบโต โดยมีแผนนำเสนอสินค้ากลุ่มอิฐมวลเบาและแผ่นพื้น SPC เพื่อเพิ่มยอดขาย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งรักษาจุดเด่นในการเป็นหุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น ประกอบกับฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและอัตราหนี้สินต่อทุน ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 ที่อยู่ในระดับต่ำ 0.77 เท่า จึงเตรียมเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้น