โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“พลาสติก” ทะลักโลก ถูกนำไปรีไซเคิลจริงแค่ 10% นักวิทย์ฯเตือนเข้าสู่จุดวิกฤต

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา
โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติพลาสติกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ พลาสติกที่ผลิตขึ้นมีมากกว่า 200 เท่าในรอบ 75 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดมลพิษครอบคลุมทุกพื้นที่บนโลก พร้อมสร้างความเสียหายทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมหาศาล มูลค่าความเสียหายสูงถึงกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 54 ล้านล้านบาท และรายงานล่าสุดจากวารสารการแพทย์ชั้นนำ The Lancet เตือนว่าปัญหานี้กำลังทวีความรุนแรงและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

พลาสติกถือเป็น “อันตรายร้ายแรงที่เพิ่มมากขึ้นและยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเพียงพอ” ต่อสุขภาพมนุษย์และโลก นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า โลกกำลังเผชิญกับ “วิกฤติพลาสติก” ซึ่งก่อให้เกิดโรคและการเสียชีวิตตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงวัยชรา และก่อให้เกิดความเสียหายทางสุขภาพปีละอย่างน้อย 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 54 ล้านล้านบาทไทย

สาเหตุหลักของวิกฤตินี้คือการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการผลิตพลาสติก ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 200 เท่าตั้งแต่ปี 1950 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าจนถึงกว่า 1 พันล้านตันต่อปีภายในปี 2060 แม้ว่าพลาสติกจะมีประโยชน์มากมาย แต่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดเกิดจากพลาสติกใช้ครั้งเดียว เช่น ขวดน้ำดื่มและภาชนะอาหารจานด่วน

ผลลัพธ์คือมลพิษพลาสติกที่พุ่งสูงขึ้น โดยตอนนี้มีพลาสติกปริมาณ 8 พันล้านตันอยู่ทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ยอดเขาเอเวอเรสต์จนถึงร่องลึกใต้ทะเลลึก รายงานระบุว่า มีพลาสติกเพียงไม่ถึง 10% เท่านั้นที่ถูกนำกลับมารีไซเคิล

พลาสติกส่งผลกระทบต่อผู้คนและโลกในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสกัดเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใช้ผลิตพลาสติก ไปจนถึงการผลิต การใช้งาน และการกำจัด ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ การสัมผัสสารพิษ และการสะสมของไมโครพลาสติกในร่างกาย มลพิษพลาสติกยังส่งเสริมการแพร่พันธุ์ของยุงพาหะนำโรค เพราะน้ำขังในขยะพลาสติกเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่เหมาะสม

รายงานฉบับนี้ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The Lancet ก่อนการประชุมรอบสุดท้ายของการเจรจาระหว่างประเทศเพื่อทำสนธิสัญญาผูกพันด้านพลาสติกระดับโลก ซึ่งมีข้อขัดแย้งระหว่างกว่า 100 ประเทศที่สนับสนุนการจำกัดการผลิตพลาสติก กับประเทศที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมันเช่นซาอุดีอาระเบียที่คัดค้านข้อเสนอดังกล่าว โดย The Guardian เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศน้ำมันและกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมพลาสติกได้ขัดขวางการเจรจา

"เรารู้ดีถึงผลกระทบที่หลากหลายและรุนแรงของมลพิษพลาสติกต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม" ศาสตราจารย์ฟิลิป แลนดริแกน (Philip Landrigan) นักระบาดวิทยาและกุมารแพทย์จาก Boston College ในสหรัฐฯ ผู้เขียนรายงานหลักกล่าว และยังบอกอีกว่า “ผลกระทบเหล่านี้ส่งผลต่อประชากรกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะทารกและเด็ก และทำให้เกิดต้นทุนทางเศรษฐกิจมหาศาลต่อสังคม เราต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน”

กลุ่มประเทศน้ำมันและอุตสาหกรรมพลาสติกโต้แย้งว่าควรเน้นการรีไซเคิลพลาสติก ไม่ใช่ลดการผลิต แต่พลาสติกที่มีความซับซ้อนทางเคมี ไม่เหมือนกระดาษ แก้ว เหล็ก และอลูมิเนียม ที่รีไซเคิลได้ง่าย รายงานชี้ชัดว่า “โลกไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษพลาสติกได้ด้วยการรีไซเคิลเพียงอย่างเดียว”

เพราะพลาสติกมากกว่า 98% ผลิตจากน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน ซึ่งกระบวนการผลิตต้องใช้พลังงานสูงและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 2 พันล้านตันต่อปี ซึ่งมากกว่าการปล่อยก๊าซของรัสเซีย ประเทศที่ปล่อยก๊าซมากเป็นอันดับสี่ของโลก นอกจากนี้ การเผาขยะพลาสติกมากกว่าครึ่งในที่โล่ง ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้น

พลาสติกมีสารเคมีมากกว่า 16,000 ชนิด เช่น ตัวเติม สี สารหน่วงไฟ และสารเพิ่มความคงทน รายงานระบุว่าสารเคมีเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในทุกช่วงชีวิตของมนุษย์ แต่ยังไม่มีความโปร่งใสเกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในพลาสติก และจากการวิเคราะห์พบว่า ทารกในครรภ์ เด็กแรกเกิด และเด็กเล็ก มีความไวต่อผลเสียจากพลาสติกสูง โดยพบความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของการแท้งลูก คลอดก่อนกำหนด เด็กเสียชีวิตในครรภ์ ความพิการแต่กำเนิด การเจริญเติบโตของปอดผิดปกติ โรคมะเร็งในเด็ก และปัญหาภาวะเจริญพันธุ์ในอนาคต

ขยะพลาสติกมักแตกสลายกลายเป็นไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านทางน้ำ อาหาร และการหายใจ พบว่ามีอนุภาคเหล่านี้ในเลือด สมอง น้ำนมแม่ รก น้ำเชื้อ และไขกระดูก ผลกระทบต่อสุขภาพยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีความเชื่อมโยงกับโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวาย ซึ่งนักวิจัยเรียกร้องให้ใช้มาตรการป้องกันก่อน

พลาสติกมักถูกมองว่าเป็นวัสดุราคาถูก แต่เมื่อนำต้นทุนสุขภาพมารวมด้วยแล้ว กลับมีราคาสูง รายงานประเมินว่าความเสียหายทางสุขภาพจากสารเคมีพลาสติกเพียง 3 ชนิด ได้แก่ PBDE, BPA และ DEHP ใน 38 ประเทศ มีมูลค่าถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 54 ล้านล้านบาทไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

บริษัทกำจัดขยะอวกาศจากญี่ปุ่นได้รับสิทธิบัตรจากสหรัฐอเมริกา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ประวัติ CORTIS บอยกรุ๊ปวงใหม่ของ BIGHIT ในรอบ 6 ปี ปักเดบิวต์ 18 สิงหานี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รู้จัก"ไข้มาลาเรีย" โรคร้ายที่มาจากยุงก้นปล่อง ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งปลอดภัย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“วปอ.บอ. รุ่น 2”ร่วมเสนอนโยบายพัฒนาความมั่นคงชาติ 10 ปี ด้วยโมเดล “2P by 2P”

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ทหาร 5 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุอาวุธปืนที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์เจีย

JS100

"สถานทูตจีน"ชี้แจงแล้ว ลือสะพัดบริจาคโดรนให้"กัมพูชา"

TNews

“อ.เบียร์”ถึงกับลั่นถามจริงหรือ “หมอบี”มีรายได้จากการปราบผี

เดลินิวส์

รถตู้รับ-ส่งนักเรียน ชนกับรถบรรทุก กลางแยกทหารอากาศอุทิศ มีผู้บาดเจ็บหลายราย

สวพ.FM91

พิกัด ไฟฟ้าดับวันนี้ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี วันที่ 7-8 ส.ค.68

ฐานเศรษฐกิจ

โครงการ KKP Shaping Tomorrow จับมือ 6 เอกชนอสังหาฯเดินหน้าสู่ Green Transition

ไทยพับลิก้า

มีผู้เสียชีวิต 20 รายจากเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำในฉนวนกาซา

JS100

มีเจ้าหน้าที่ทำงาน ถนนบรมราชชนนี ขาออก ช่วงหน้า สน.ตลิ่งชัน - ใต้ต่างระดับราชพฤกษ์ ในช่องทางหลัก

สวพ.FM91

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทำความรู้จัก “Spogomi” กีฬารักษ์โลกแนวใหม่ ที่ช่วยปฏิวัติวงการเก็บขยะ

TNN ช่อง16

นักวิทยาศาสตร์พบวิธีเปลี่ยนขยะเป็นยา

TNN ช่อง16

ศึกพลาสติกโลกเดือด เจออิทธิพลธุรกิจฟอสซิล ขวางสนธิสัญญาลดพลาสติก

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...