โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“ไขปริศนากลุ่มปราสาทตาเมือน” ร่องรอยแห่งศรัทธาบนเส้นทางความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว
ปราสาทตาเมือนธม (ภาพจาก มติชนออนไลน์, 2 กรกฎาคม 2568)

กลุ่มปราสาทตาเมือนเป็นโบราณสถานที่อยู่บนหน้าสื่อและเป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก ตั้งแต่ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาปะทุขึ้น เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณช่องเขาตาเมือน (ตาเมียง) จุดเชื่อมต่อระหว่างดินแดนเขมรสูงกับเขมรต่ำ ซึ่งมีแนวเทือกเขาพนมดงรักเป็นปราการธรรมชาติ ปราสาทกลุ่มนี้จึงตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมสำคัญแต่โบราณ โดยมีบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างชัดเจน

เรื่องนี้มีการอธิบายไว้ในรายการ ไขความรู้จากครูกรมศิลป์ตอน “ไขปริศนากลุ่มปราสาทตาเมือน”มี นายทศพร ศรีสมานผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เป็นวิทยาการ ดำเนินรายการโดย นายสิทธิพร บุปผานักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568

รู้จักกลุ่มปราสาทตาเมือน

ผอ. ทศพร เผยว่า กลุ่มปราสาทตาเมือน เป็นกลุ่มปราสาทใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา อยู่ที่บ้านหนองคันนา ต. ตาเมียง อ. พนมดงรัก จ. สุรินทร์ มีอยู่ด้วยกัน 3 หลัง ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือน

ในกลุ่มปราสาทดังกล่าว ปราสาทตาเมือนธม มีขนาดใหญ่ที่สุด (ธม แปลว่า ใหญ่) เป็นศิลปะเขมรโบราณ เป็นเทวสถานที่สร้างถวายองค์พระศิวะ ในศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย บนเส้นทางโบราณของคนในอดีต เชื่อว่าใช้ช่องตาเมือนเพื่อการสัญจรมาแล้วหลายร้อยปี หรือเป็นพันปี

กรมศิลปากรเข้าไปศึกษาและสำรวจปราสาทตาเมือนธมและประกาศขึ้นทะเบียนตั้งแต่ พ.ศ. 2478 หลังจากช่วง พ.ศ. 2503-2504 อาจารย์มานิต วัลลิโภดม ได้ไปสำรวจพร้อมบันทึกภาพ-จัดทำแผนผังต่าง ๆ ไว้ เป็นการดำเนินการในช่วงแรก

หลักฐานโบราณคดีบริเวณปราสาทตาเมือนธมคือ ร่องรอยจารึกด้วยอักษรปัลลวะ เรียกว่า “จารึกตาเมือนธม 1”มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษ 12-13 สลักอยู่บนแผ่นหินธรรมชาติ ต่อมาเป็นหลักฐานในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15-16 จากอิทธิพลดินแดนเขมรต่ำที่แผ่เข้ามาในบริเวณดังกล่าว ซึ่งตัวปราสาทที่เราเห็นในปัจจุบันก็สร้างขึ้นในช่วงนั้น

ความสำคัญของปราสาทตาเมือนธม คือเป็นปราสาทที่สร้างคร่อมอยู่บนแนวพะลานหิน ปราสาทองค์ประธานซึ่งปกติจะมีศิวลึงค์ประดิษฐานตามคติไศวนิกายเป็นศิวลึงค์ธรรมชาติ เรียก “สวยัมภูลึงค์”คือดัดแปลงหินธรรมชาติทำเป็นตัวลึงค์นั่นเอง

ลักษณะโดยทั่วไป ตัวปราสาทหันหน้าลงทิศใต้ มีบันไดลงพื้นที่ราบด้านล่าง ประกอบด้วยปราสาทประธาน โคปุระ มณฑป มุขกระสัน ภายในอาคารนอกจากสวยัมภูลึงค์แล้วจะมีประติมากรรมรูปโคนนทิหมอบหันหน้าไปหาศิวลึงค์ เป็นสิ่งยืนยันว่าเป็นเทวสถานของพระศิวะ ข้าง ๆ กันมีอาคารบรรณาลัย และปราสาทเล็ก ๆ อีก 2 หลัง สร้างขนาบกัน

ปราสาทตาเมือนโต๊ดคือปราสาทอีกหลังที่อยู่ลึกเข้ามาในดินแดนประเทศไทย และกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนโบราณสถานพร้อมกันกับตาเหมือนธม แต่จะมีขนาดเล็กกว่า (โต๊ด แปลว่า เล็ก) รูปแบบอาคารเป็น “อโรคยาศาล” หรือสถานพยาบาล สร้างขึ้นในสมัย พระเจ้าชัยวรมันที่ 7(พุทธศตวรรษที่ 18) ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเดียวกันกับอโรคยาศาลอีก 30 กว่าแห่งที่พบในประเทศไทย

ปราสาทตาเมือนโต๊ดเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเส้นทางราชมรรคา เพื่อเชื่อมโยงดินแดนต่าง ๆ ในพระราชอำนาจของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ดังมีจารึกว่าทรงสร้างอโรคยาศาลถึง 102 แห่งทั่วราชอาณาจักรในสมัยของพระองค์ ซึ่งปราสาทตาเมือนโต๊ดถือเป็นอโรคยาศาลหลังแรก (ในดินแดนที่ปัจจุบันคือไทย) ที่เชื่อมเมืองพระนครกับเมืองพิมาย

สุดท้ายคือ ปราสาทตาเมือน หลังที่อยู่ลึกสุดในดินแดนไทย เป็นโบราณสถานที่เรียกว่า “วหนิคฤหะ” หรือบ้านมีไฟ สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เช่นกัน มีจารึกเล่าเรื่องเส้นทางราชมรรคาพร้อมพระราชบัญชาให้สร้างบ้านมีไฟจากเมืองพระนครมายังพิมาย 17 หลัง โดยพบในไทย 9 หลัง กัมพูชาอีก 8 หลัง ปราสาทตาเมือนเป็นบ้านมีไฟหลังแรกในดินแดนไทยอีกเช่นกัน และกรมศิลปากรดำเนินการขุดแต่งบูรณะไปบ้างแล้ว

บทบาทหน้าที่ในฐานะ วหนิคฤหะ ของปราสาทตาเมือนคือเป็นศาสนสถานประจำที่พักคนเดินทาง หรือจุดพักแรมนั่นเอง โดยตัวอาคารจะมีช่องหน้าต่างให้คนเดินทางสังเกตเห็นแสงไฟที่ส่องสว่างอยู่ข้างใน

เนื่องจากสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ผู้ทรงนับถือพุทธศาสนานิกายมหายาน และพบโบราณวัตถุเนื่องในมหายาน เช่น ประติมากรรมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปราสาทตาเมือนโต๊ดกับตาเมือนจึงถือเป็นพุทธสถานพุทธมหายานเหมือนกัน แต่มีหน้าที่ต่างกัน

งานบูรณะโดยกรมศิลปากร

ผอ. ทศพร เล่าว่า ตั้งแต่ประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทเหล่านี้เป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 และ อ. มานิต พร้อมด้วย อ. จำรัส เกียรติก้อง เข้ามาสำรวจตรวจสอบแล้วบันทึกข้อมูลไว้ ถือเป็นแม่แบบที่เป็นประโยชน์ต่อทีมบูรณะที่เข้ามาทำงานในรุ่นหลัง ๆ เป็นอย่างมาก

หลังจากทางกองทัพภาค 2 ทำถนนเข้าไปถึงพื้นที่ของกลุ่มปราสาท จึงเกิดโครงการเพื่อเตรียมศึกษา ขุดแต่ง และสำรวจ ปราสาทกลุ่มข้างต้น โดยสำนักศิลปากรที่ 6 นครราชสีมา (ปัจจุบันคือสำนักศิลปากรที่ 10) เมื่อ พ.ศ. 2532 และเริ่มขุดแต่งอย่างจริงจังใน พ.ศ. 2534

อย่างไรก็ตาม พ.ศ. 2544 ได้เกิดปัญหาชายแดนขึ้น จึงมีคำสั่งให้หยุดการทำงานจนกว่าจะมีความชัดเจน ซึ่งระหว่างนั้นสำนักศิลปากรก็พัฒนาไปหลายส่วนแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ สภาพตัวปราสาทและบริเวณโดยรอบที่เราเห็นในปัจจุบันจึงเป็นผลจากการที่กรมศิลปากรบูรณะไปบ้างแล้วนั่นเอง

ผอ. ทศพร เผยด้วยว่า งานของสำนักศิลปากรที่ 10 ในปีนี้ (2568) ยังมีโครงการสำคัญ ๆ อีกหลายโครงการ เช่น การขุดค้นแหล่งโบราณคดี “โนนพลล้าน” ซึ่งจะพิสูจน์ความเก่าแก่ของชุมชนโบราณในเขตเมืองนครราชสีมา งานบูรณะและพัฒนาโบราณสถาน “พระนอน” ที่วัดธรรมจักรเสมาราม อ. สูงเนิน จ. นครราชสีมา

รวมไปถึงโครงการอนุรักษ์โบราณสถาน “ปราสาทบ้านบุใหญ่” อ. สูงเนิน จ. นครราชสีมา ที่กรมศิลปากรตั้งใจจะพัฒนาทักษะนายช่างในกำกับด้วยการใช้วิธี “อนัสตีโลซิส” เพื่อบูรณะปราสาทผ่านโครงการดังกล่าวด้วย

ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ทิ้งท้ายว่า สำหรับโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่พบจากกลุ่มปราสาทตาเมือน เช่น จารึก รูปเคารพ หรือชิ้นส่วนประดับตัวสถาปัตยกรรม ส่วนใหญ่เก็บรวบรวมไว้ที่พิพัธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดสุรินทร์ สามารถไปเยี่ยมชมกันได้

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 สิงหาคม 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ไขปริศนากลุ่มปราสาทตาเมือน” ร่องรอยแห่งศรัทธาบนเส้นทางความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

สงคราม Anglo-Zanzibar อังกฤษทำ "สงครามสั้นที่สุดในโลก" รบกัน 38 นาที

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แกะรอยประติมากรรมรูปสตรี “พระศรีชัยราชเทวี” มเหสีพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พบที่ปราสาทพิมาย

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดเมนูอาหารชาววังเวียดนาม “จักรพรรดิราชวงศ์เหวียน” เมื่อ 100 กว่าปีก่อน เสวยอะไรบ้าง?

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คณะราชทูตสยามไปทำอะไรที่งาน Paris Expo 1867 มหกรรมยิ่งใหญ่ของโลก

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

วิดีโอ

ออกกำลังเป็นยา : 5 ท่าคาร์ดีโอ เสริมความแข็งแรงระบบหัวใจ ปอด และหลอดเลือด

Thai PBS
วิดีโอ

ปรับก่อนป่วย : DIY เครื่องหอมดับกลิ่น

Thai PBS

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค. 68

PostToday

ดาวอาทิตย์จรเจอราหูควรระวังเหตุอัคคีภัย พยากรณ์วันที่ 10 - 16 ส.ค. 2568

ฐานเศรษฐกิจ

สงคราม Anglo-Zanzibar อังกฤษทำ "สงครามสั้นที่สุดในโลก" รบกัน 38 นาที

ศิลปวัฒนธรรม

แกะรอยประติมากรรมรูปสตรี “พระศรีชัยราชเทวี” มเหสีพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พบที่ปราสาทพิมาย

ศิลปวัฒนธรรม

เปิดเมนูอาหารชาววังเวียดนาม “จักรพรรดิราชวงศ์เหวียน” เมื่อ 100 กว่าปีก่อน เสวยอะไรบ้าง?

ศิลปวัฒนธรรม

คณะราชทูตสยามไปทำอะไรที่งาน Paris Expo 1867 มหกรรมยิ่งใหญ่ของโลก

ศิลปวัฒนธรรม

ข่าวและบทความยอดนิยม

“ไขปริศนากลุ่มปราสาทตาเมือน” ร่องรอยแห่งศรัทธาบนเส้นทางความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

ศิลปวัฒนธรรม

3 มหรสพ ลิเก-โขน-หนังตะลุง รวมกันทำไมเรียก “หนังสด”

ศิลปวัฒนธรรม

อิเอนากะ ซาบุโระ ผู้ที่ทำให้ญี่ปุ่นยอมใส่ "เหตุการณ์สังหารโหดที่นานกิง" ลงในตำรา

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...