พ่อร่ำไห้ ยกมือไหว้ขอเมีย-ลูกอยู่ไทยต่อ เพื่อนบ้านยันเด็กนิสัยดีพูดเขมรได้
วันที่ 29 ส.ค.68 กรณีที่มีเหตุการณ์ดราม่า ครูนักเรียนร้องไห้กอดกัน หลังจากตำรวจพาแม่ชาวกัมพูชา ไปเชิญตัวเด็กชาย อายุ 13 ปี ออกจากโรงเรียนบัวเชดวิทยา อ.บัวเชดฯเพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา หลังพบว่าไม่มีเอกสารที่ได้รับอนุญาติถูกต้องตามกฏหมาย ก่อนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ทั้งสองแม่ลูกมาพักที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุรินทร์ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 182 บ.โนนสังข์ ม.10 ต.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของนายศิริโชค เภาว์เพ็ง อายุ 67 ปี สามีของนางเซียบ พารม อายุ 41 ปี ชาวกัมพูชา มารดาของ ด.ช.ตงเฮง ระเสม็ย อายุ 13 ปี พบสภาพบ้าน 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน ที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จในสภาพเก่า
นายศิริโชค เภาว์เพ็ง กล่าวทั้งน้ำตา พร้อมยกมือไหว้วอนให้หน่วยงานต่างๆช่วยเหลือ ว่า ขอให้เมียกับลูกชายได้กลับมาอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิม ครอบครัวตนไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เคยลักเล็กขโมยน้อย มั่นใจว่าเป็นลูกของตน ส่วนจะให้ตรวจ DNA ตนก็พร้อมตรวจ และดีใจถ้าลูกชายจะได้กลับมาเรียนต่อ เพราะก็รักเขามาก
ขณะที่นางไพ ควรดี เพื่อนบ้าน บอกว่า ตอนเด็กมาใหม่ก็พูดภาษาเขมรได้ นิสัยก็ปกติธรรมดาเหมือนบ้านเรา ก็สงสารเด็ก เคยอยู่ร่วมกันบ้านข้างเคียงเห็นเด็กตลอด ตนก็อยากให้เขาได้เรียนต่อที่นี่
ส่วนนางยอย นันทา เพื่อนบ้าน กล่าวว่า น้องมาอยู่ตั้งแต่ห้าหกขวบ ตอนนั้นพูดภาเขมรได้ นิสัยดี อยากให้น้องได้กลับมาอยู่เรียน อยู่กับครอบครัวเหมือนเดิม
ขณะที่นายแซว แก่นมั่น เพื่อนบ้าน กล่าวว่า สองสามีภรรยาก็รับจ้างไปทั่ว ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ส่วนเด็กมาอยู่ตั้งแต่ 5-6 ขวบ