ผู้เสียหายรวมตัวร้อง ปคบ. หลังซื้อคอนโดหรูพัทยา จ่ายเงินไปกว่า 100 ล้าน แต่โครงการหยุดสร้างนาน 2 ปี
วันที่ 28 ส.ค.68 ที่บริเวณหน้าแดนเนรมิตเก่า จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 20-30 ราย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังซื้อคอนโดมิเนียมหรูติดทะเลที่พัทยา ซอย 8 จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ปี 2563 และจ่ายเงินไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท แต่โครงการกลับหยุดการก่อสร้างมานานกว่า 2 ปี ทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามกำหนดคำให้การของผู้เสียหาย
นายสมชาย (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่าตนเองได้ซื้อคอนโดที่นาจอมเทียน ซอย 8 ในราคา 2,199,999 บาท เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว โดยโครงการแจ้งว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมส่งมอบภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 แต่เมื่อถึงกำหนดก็พบว่าโครงการยังสร้างไม่เสร็จ เมื่อสอบถามก็ได้รับแจ้งว่ามีปัญหาเรื่องเงินทุน และมีการเลื่อนกำหนดส่งมอบห้องไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2566 โครงการได้หยุดก่อสร้างโดยไม่มีกำหนด ทำให้ผู้เสียหายหลายรายตัดสินใจทำเรื่องขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืนเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากโครงการ
นอกจากนี้ อาจารย์มานพ ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีจากทีมงานจ่าคิงส์ ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบงบการเงินย้อนหลัง 5 ปีจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งพบข้อสังเกตหลายประการ ได้แก่
* เปลี่ยนชื่อและเพิ่มทุน: บริษัทเจ้าของโครงการเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 2 ครั้ง และในปี 2562 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 5 ล้านบาทเป็น 500 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการคอนโดมิเนียมนี้โดยเฉพาะ
* ขาดทุนต่อเนื่อง: ผลประกอบการของบริษัทตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2567 พบว่าขาดทุนต่อเนื่องทุกปี
* รายได้ไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่าย: ในช่วงปี 2564-2567 บริษัทมีรายได้เพียงหลักพันถึงหลักหมื่นบาท แต่กลับมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงถึงหลักสิบล้านบาทต่อปี
* ที่ดินจำนองหายไป: ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่าบริษัทเคยนำที่ดินไปจำนองไว้ถึง 2,500 ล้านบาทในปี 2561 เพื่อเป็นทุนก่อสร้าง แต่ข้อมูลในงบการเงินปี 2563-2567 กลับไม่ปรากฏมูลค่าที่ดินดังกล่าวในรายการสินทรัพย์ของบริษัทเลยข้อเท็จจริงเหล่านี้ทำให้ผู้เสียหายเกิดข้อสงสัยว่าบริษัทมีความตั้งใจที่จะก่อสร้างและส่งมอบคอนโดให้แล้วเสร็จตามสัญญาหรือไม่
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ได้รับเรื่องและพิจารณาพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป โดยกลุ่มผู้เสียหายยืนยันว่าจะรวมตัวดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องเงินคืนและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากมูลค่าความเสียหายรวมกันสูงกว่า 100 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน