ทำเนียบขาวปลด “ซูซาน โมนาเรซ” ผู้อำนวยการ CDC ต้านการใช้สาธารณสุขเป็นการเมือง
ทำเนียบขาวปลด “ซูซาน โมนาเรซ” ผู้อำนวยการ CDC ด้วยเหตุไม่สอดคล้องกับวาระประธานาธิบดี” ท่ามกลางกระแสลาออกต่อเนื่องของผู้บริหารระดับสูง และเสียงวิจารณ์การใช้สาธารณสุขเป็นการเมือง
วันที่ 28 สิงหาคม 2568 สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทำเนียบขาวประกาศปลด ซูซาน โมนาเรซ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) หลังปฏิเสธที่จะลาออกเมื่อวันพุธ ในแถลงการณ์ระบุว่า ซูซาน โมนาเรซ ไม่สอดคล้องกับวาระของประธานาธิบดี
ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐประกาศการพ้นตำแหน่งของเธอ ซึ่งทำให้ทีมทนายของ ซูซาน โมนาเรซออกแถลงการณ์ยืนยันว่าไม่ได้รับแจ้งเรื่องการปลด และยืนยันว่าจะไม่ลาออก โดยกล่าวหาว่าตกเป็นเป้าเพราะปฏิเสธที่จะรับรองคำสั่งที่ขัดต่อวิทยาศาสตร์และเสี่ยงอันตราย และปฏิเสธที่จะไล่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่อุทิศตน พร้อมทั้งกล่าวหาว่า โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข ใช้สาธารณสุขเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ทำเนียบขาวระบุ เพิ่มเติมในเวลาต่อมาว่า “ตามที่ทีมทนายของซูซาน โมนาเรซ กล่าวไว้อย่างชัดเจน ซูซาน โมนาเรซไม่สอดคล้องกับวาระของประธานาธิบดี” และยืนยันว่า ถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
โมนาเรซ เป็นนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางมาอย่างยาวนาน เธอได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้เป็นผู้อำนวยการ CDC และผ่านการรับรองโดยวุฒิสภาเมื่อเดือนกรกฎาคม หลังทรัมป์ถอนตัวผู้ถูกเสนอชื่อคนแรกคืออดีตสมาชิกรัฐสภารีพับลิกัน เดฟ เวลดอน เนื่องจากถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับมุมมองเรื่องวัคซีนและออทิสติก
หลังการประกาศพ้นตำแหน่งของเธอ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ CDC อย่างน้อย 3 คนยื่นลาออกตามทันที หนึ่งในนั้นคือ เดบราห์ ฮาวรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ ซึ่งเตือนถึงการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีน
ด้านแดเนียล เจอร์นิแกน ผู้อำนวยการศูนย์โรคอุบัติใหม่และโรคติดต่อจากสัตว์ ก็ลาออก โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะบริบทในปัจจุบันของกระทรวง
เช่นเดียวกับ ดิมีเทร ดาสคาลาคิส หัวหน้าศูนย์วัคซีนและโรคทางเดินหายใจ ซึ่งระบุว่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เพราะการทำให้สาธารณสุขกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง
มีรายงานเพิ่มเติมจาก NBC News ว่า เจนนิเฟอร์ เลย์เดน ผู้อำนวยการสำนักงานข้อมูลและเทคโนโลยีสาธารณสุข ก็ได้ลาออกเช่นกัน
การลาออกครั้งใหญ่ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพต่อแนวทางการฉีดวัคซีนของ CDC ภายใต้การนำของ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ซึ่งเป็นผู้มีท่าทีสงสัยต่อวัคซีน
ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติวัคซีนโควิดรุ่นใหม่ แต่จำกัดกลุ่มผู้มีสิทธิ์ โดยอนุญาตเฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น ส่วนผู้ใหญ่และเด็กที่ไม่มีโรคประจำตัวจะไม่ได้รับสิทธิ์ฉีด
เคนเนดี เขียนในแพลตฟอร์ม X ว่า“การอนุมัติการใช้วัคซีนโควิดในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกใช้เป็นเหตุผลในการบังคับใช้กับประชาชนทั่วไปในสมัยรัฐบาลไบเดน ตอนนี้ได้ถูกยกเลิกแล้ว”
ทั้งนี้ โมนาเรซ ถือเป็นผู้อำนวยการ CDC คนแรกในรอบ 50 ปีที่ไม่ได้จบการศึกษาแพทยศาสตร์ แต่มีพื้นฐานด้านการวิจัยโรคติดเชื้อ ในช่วงเดือนที่เธอทำงาน เธอมีบทบาทสำคัญในการปลอบขวัญเจ้าหน้าที่ CDC หลังเกิดเหตุกราดยิงที่สำนักงานใหญ่ในแอตแลนตา โดยมือปืนอ้างว่าได้รับอันตรายจากวัคซีนโควิด เหตุการณ์ดังกล่าวมีการยิงกระสุนหลายร้อยนัด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย
เมื่อต้นเดือนนี้ อดีตและปัจจุบันเจ้าหน้าที่ของ CDC ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกกล่าวหาว่า เคนเนดี มีส่วนทำให้เกิดความรุนแรงต่อบุคลากรสาธารณสุขด้วยถ้อยคำต่อต้านวัคซีนของเขา
การพ้นตำแหน่งของโมนาเรซ เกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์ หลังสหภาพแรงงานของ CDC ประกาศว่าได้ปลดพนักงานประมาณ 600 คน ซึ่งรวมถึงผู้ทำงานด้านโรคติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดนก นักวิจัยสิ่งแวดล้อม และผู้ดูแลคำร้องข้อมูลสาธารณะ
อ้างอิง : www.bbc.com