JD.com ครองอันดับ 1 บริษัทเอกชนใหญ่สุดในจีน รายได้ทะลุ 1 ล้านล้านหยวน
JD.com ครองอันดับ 1 บริษัทเอกชนใหญ่สุดในจีน รายได้ทะลุ 1 ล้านล้านหยวน ตามด้วยอาลีบาบาและเฮงลี่ กรุ๊ป ยืนยันความแข็งแกร่งของภาคเอกชนที่ขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจดิจิทัล การวิจัยพัฒนา และการจ้างงานกว่า 11 ล้านตำแหน่ง
วันที่ 28 สิงหาคม 2568 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนประกาศการจัดอันดับ 500 บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุด ประจำปีล่าสุด โดยมีเจดีดอทคอม (JD.com) ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ ครองอันดับหนึ่ง สะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของภาคเอกชนในประเทศ
รายชื่อดังกล่าวจัดทำโดยสหพันธ์อุตสาหกรรมและพาณิชย์แห่งประเทศจีน (ACFIC) และเผยแพร่ในงานประชุม China Top 500 Private Enterprises Summit 2025 ที่เมืองเสิ่นหยาง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า JD.com, Alibaba (China) Co., Ltd. และ Hengli Group Co., Ltd. ยังคงครองสามอันดับแรกติดต่อกันเป็นปีที่ 4
โดยครั้งนี้เป็นการสำรวจครั้งที่ 27 ของ ACFIC มีบริษัทเข้าร่วมทั้งสิ้น 6,379 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีรายได้จากการดำเนินงานเกินกว่า 1 พันล้านหยวน หรือประมาณ 140.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 จากนั้น ACFIC ได้คัดเลือกและจัดทำรายชื่อ 500 อันดับแรกตามรายได้จากการดำเนินงาน
ผลการสำรวจชี้ว่าเกณฑ์ขั้นต่ำในการเข้าสู่รายชื่อท็อป 500 อยู่ที่ราว 27,000 ล้านหยวนในปี 2567 โดยรายได้รวมของ 500 บริษัทสูงถึง 43.05 ล้านล้านหยวน สะท้อนถึงการเติบโตต่อเนื่องในเชิงขนาดธุรกิจ ในจำนวนนี้ JD.com มีรายได้ประจำปีประมาณ 1.16 ล้านล้านหยวน กลายเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกในจีนที่ทำรายได้ทะลุ 1 ล้านล้านหยวน
ด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทท็อป 500 ยังคงปรับตัวดีขึ้น โดยมีบริษัท 361 แห่งที่รายงานรายได้เติบโตเมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านหยวน หรือเฉลี่ยบริษัทละ 3.6 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.48% จากปีก่อนหน้า
บริษัทเอกชนชั้นนำเหล่านี้ยังลงทุนรวมกันถึง 1.13 ล้านล้านหยวนในงานวิจัยและพัฒนา (R&D) มีบุคลากรด้านวิจัยมากกว่า 1.15 ล้านคน และถือครองสิทธิบัตรที่ยังมีผลบังคับใช้รวม 721,600 ฉบับ เพิ่มขึ้น 8.23% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้านการปรับตัวทางดิจิทัล 64.2% ของบริษัทได้จัดทำแผนกลยุทธ์เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลแล้ว ขณะที่ 83% เดินหน้าแผนการพัฒนาแบบ สีเขียวและคาร์บอนต่ำ นอกจากนี้ยังมีบริษัท 309 แห่งลงทุนในโครงการอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงยุทธศาสตร์จำนวน 627 โครงการ ครอบคลุมสาขาหลัก อาทิ วัสดุใหม่ พลังงานใหม่ เทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่ การผลิตอุปกรณ์ขั้นสูง รถยนต์พลังงานใหม่ รวมถึงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
ในอีกด้านหนึ่ง บริษัทเอกชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็มีบทบาทสำคัญต่อรายได้ภาษีและการจ้างงาน โดยบริษัทท็อป 500 จ่ายภาษีรวม 1.27 ล้านล้านหยวน โดยมี 240 บริษัทที่จ่ายภาษีเกิน 1 พันล้านหยวน คิดเป็น 48% ของทั้งหมด ในด้านการจ้างงาน บริษัทเหล่านี้สร้างงานมากกว่า 11 ล้านตำแหน่ง โดยมี 240 แห่งที่มีพนักงานเกิน 10,000 คนต่อบริษัท ซึ่งคิดเป็น 48% ของทั้งหมดเช่นกัน
นอกจากนี้บริษัทยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวในตลาดต่างประเทศ โดยการส่งออกของท็อป 500 มีมูลค่า 1.77 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.17% จากปีก่อนหน้า ส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 3.19 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นถึง 14.74% เมื่อเทียบกับปีก่อน
อ้างอิง : english.news.cn