ตำรวจเผย มือปืนเหตุกราดยิงโรงเรียนคาทอลิกสหรัฐฯ ‘หมกมุ่นกับความคิดที่จะสังหารเด็ก’

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co

เจ้าหน้าที่สอบสวนของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า มือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนคาทอลิกใน เมืองมินนีแอโปลิส รัฐมินนิโซตาของสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 สิงหาคมนั้น ‘หมกมุ่นกับความคิดที่จะสังหารเด็ก’ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในที่สุด

ทั้งยังเผยอีกว่า โรบิน เวสต์แมน ชาวอเมริกันวัย 23 ปี ผู้ต้องสงสัยลงมือก่อเหตุ ดูเหมือน ‘ไม่มีแรงจูงใจเฉพาะเจาะจง’ โดย ไบรอัน โอฮารา ระบุว่า ผู้ก่อเหตุดูเหมือน ‘จะเกลียดชังเราทุกคน’ และเหนือสิ่งอื่นใด ‘เขาต้องการที่จะสังหารเด็ก’

เหตุกราดยิงในครั้งนี้ เป็นเหตุให้มีเด็กเสียชีวิต 2 คน คือ เฟล็ตเชอร์ เมอร์เคิล และ ฮาร์เปอร์ มอยสกี้ อายุเพียง 8 และ 10 ปี ตามลำดับ อีกทั้งยังมีผู้บาดเจ็บอีก 18 คน ซึ่งในจำนวนนี้อาการสาหัสและต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

พ่อของหนูน้อยวัย 8 ปีที่เสียชีวิตกล่าวว่า “เมื่อวานนี้คนขี้ขลาดคนหนึ่งตัดสินใจพรากลูกชายของเราไป เราไม่มีวันได้โอบกอดเขา ได้พูดคุยกับเขา เล่นกับเขา หรือได้เห็นเขาเติบโตเป็นหนุ่มน้อยที่ยอดเยี่ยมอย่างที่เขากำลังจะเป็น ขอให้ทุกคนจดจำเขาด้วยสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ที่พรากชีวิตเขาไป”

ขณะที่พ่อแม่ของมอยสกี้ระบุว่า “คำพูดไม่สามารถอธิบายความเจ็บปวดของเราได้ ความทรงจำของเธอจะเป็นแรงผลักดัน เพื่อให้เกิดการลดความรุนแรงจากอาวุธปืน ไม่มีครอบครัวใดควรต้องเผชิญกับความเจ็บปวดแบบนี้…การเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้และจำเป็น เพื่อให้เรื่องราวของมอยสกี้ไม่กลายเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งโศกนาฏกรรมเท่านั้น”

ขณะที่ โจเซฟ ธอมป์สัน รักษาการอัยการรัฐมินนิโซตา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุแสดงความเกลียดชังต่อคนหลากหลายกลุ่ม รวมถึงชุมชนชาวยิวและต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้งยังมีประวัติเคยเรียนที่โรงเรียนดังกล่าว ขณะที่แม่ของเขาก็เคยทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ตำรวจยังระบุอีกว่า การกราดยิงสามารถนำไปสู่ ‘การเลียนแบบ’ ของคนร้ายคนอื่นๆ ที่อยากมีชื่อเสียงจากการกระทำที่ชั่วร้ายของตัวเอง

หลังเหตุการณ์นี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและนายกเทศมนตรีมินนีแอโปลิสเรียกร้องให้รัฐออกกฎหมายแบนการใช้อาวุธปืนจู่โจม พร้อมเรียกร้องให้ห้ามใช้แมกกาซีนที่มีความจุสูงอีกด้วย

ภาพ: Jeff Wheeler / The Minnesota Star Tribune via Getty Images

อ้างอิง: