คืบหน้า ! เด็กป.6 ถูกรถสามีครูเหยียบเจ็บสาหัส "ผู้ว่าฯ" สั่งเข้มมาตรการในรร.คนขับขอโทษพร้อมรับผิดชอบ
ความคืบหน้ากรณีสามีครูขับกระบะเหยียบร่างนักเรียนชั้น ป.6 อาการปลอดภัยแล้วแต่ต้องรักษาตัวอีก 3 อาทิตย์ เรื่องคดีหากรักษาตัวเกิน 22 วันถือว่าสาหัส ตร.เตรียมแจ้งความดำเนินคดี วันนี้ผู้ว่ารุดเยี่ยม แม่น้ำตาคลอสงสารลูก ด้านสามีครูคนขับกระบะเปิดใจ พร้อมเยียวยารับผิดชอบทุกอย่าง ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนขับรถมองไม่เห็นเด็ก
วันที่ 20 ส.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนชื่อดังในจ.อุดรธานีร้องเรียนกับสื่อมวลชนกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีมีสามีครูขับรถกระบะเหยียบร่างนักเรียนบริเวณกลางหลังได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณลานปูนโดมภายในโรงเรียนอนุบาล ทราบว่าคนขับกระบะเป็นสามีของครูในโรงเรียนดังกล่าว เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 17.50 น.ของวันที่ 18 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ตอนนี้อาการของน้องป.6 ยังคงรักษาตัวอยู่รพ.ศูนย์อุดรธานี ทราบว่ากระดูกเชิงกรานแตก ต้องนอนรักษาตัวไปอีกประมาณ 3 อาทิตย์
นายพยัคฆพล รอดชมภู ผอ.โรงเรียน เปิดเผยว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 17.50 น.ของวันที่ (18 ส.ค.68) ขณะที่น้องนั่งเล่นอยู่ลานปูนภายในโรงเรียนรอแม่มารับช่วงเลิกโรงเรียน จู่ๆ ก็มีรถกระบะ 4 ประตูสีขาว ซึ่งทราบว่าเป็นสามีครูที่โรงเรียนขับมารับภรรยาภายในโรงเรียน จากนั้นก็ขับรถออกไปแต่ดันไปเหยียบกลางหลังน้องตังค์เต็มๆ อาการสาหัส อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนพร้อมดูแลนักเรียนเต็มที่ให้ผู้ปกครองสบายใจได้และประสานทางคู่กรณีทราบว่ารถมีประกันภัย
ล่าสุดวันนี้ นายราชันย์ ซุนฮั้ว ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วย ว่าที่ ร้อยตรี รักษ์ชัย เลิศสุบิน ปลัดจ.อุดรธานี,นายพยัคฆพล รอดชมภู ผอ.โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี เดินทางมาเยี่ยมน้องตังค์ ที่อาคารกระดูก รพ.ศูนย์อุดรธานี โดยรักษาตัว ในห้องพิเศษ รพ.ศูนย์อุดรธานี ทางผู้ว่าได้พูดให้กำลังใจน้องและครอบครัวพร้อมกำชับให้ผู้บริหารมีมาตรการเข้มเรื่องรถเข้าไปโรงเรียนมากกว่านี้ พร้อมกันนี้ ทางผู้ว่าฯ ได้มอบกระเช้าแสดงความห่วงใย และสอบถามอาการกับทีมแพทย์และพยาบาล พบว่าสภาพร่างกายของน้องอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะด้านสภาพจิตใจที่ฟื้นตัวได้มากจากการดูแลของครอบครัวและทีมแพทย์
ทางด้าน นายพยัคฆพล รอดชมภู ผอ.โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี กล่าวว่า ในช่วงที่น้องยังรับการรักษาตัวอยู่นั้นไม่ต้องกังวลเรื่องเรียน โดยจะให้ครูมาสอนและนำใบงานมาให้ทำไม่ต้องกังวลว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อน ทั้งนี้ตนได้พูดคุยกับคู่กรณีทางนั้นยินดี รับผิดชอบทุกอย่าง โดยอ้างว่ามองไม่เห็นเด็กจริงๆ ซึ่งเรื่องคดี ตร.ยังไม่ตั้งข้อหาต้องรอดูการรักษา หากเกิน 22 วันตร.จะแจ้งข้อหา ขับรถประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
น.ส.ริน อายุ 45 ปี แม่ของน้องตังค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของน้องปลอดภัยแล้ว แพทย์ระบุว่าจำเป็นต้องพักฟื้นต่ออีกประมาณ 3 สัปดาห์ เพื่อให้กระดูกเชิงกรานเชื่อมติดกันตามธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดแต่อย่างใด สำหรับการดูแลจากคู่กรณี ทางคนขับรถได้เข้ามารับปากว่าจะดูแลและเยียวยาอย่างเต็มที่ ไม่ได้ทอดทิ้ง พร้อมทั้งแสดงความเสียใจและขอโทษ ซึ่งในฐานะผู้ปกครองส่วนตัวแล้วไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าติดใจเกี่ยวกับสาเหตุอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ คุณแม่กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และอยากให้เป็นกรณีสุดท้ายที่เกิดขึ้นภายในบริเวณโรงเรียน จึงอยากฝากให้โรงเรียนทุกแห่งหามาตรการด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนภายในโรงเรียนอย่างจริงจัง ทั้งนี้ น้องตังค์เป็นเด็กที่มีความฝันและมีความสามารถ รักการเล่นวอลเลย์บอล ชอบเล่นเกม และเป็นเด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมอยู่เสมอ ตอนแรกที่รู้ขาวว่าลูกชายถูกรถเหยียบร่าง หัวอกคนเป็นแม่ตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เสียใจและร้องไห้ คนเป็นแม่พูดไปก็น้ำตาคลอเบ้า
นายผาน อายุ 53 ปี (สงวนชื่อสกุลจริง )คนขับรถกระบะ เปิดใจครั้งแรกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตนไม่ขอพูดถึงรายละเอียดว่าเรื่องราวเริ่มจากอะไร แต่ในฐานะคู่กรณีและเป็นผู้ขับรถกระบะคันดังกล่าว ยืนยันว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน ตนได้ยอมรับผิด และพร้อมจะช่วยเหลือ เยียวยา และดูแลผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และขอสัญญาว่าจะดูแลให้ถึงที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากกล่าวคำขอโทษและขอรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนครั้งนี้ ส่วนสังคมที่มองว่าเป็นความประมาท ก็ยอมรับว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ในขณะนั้นตนมองไม่เห็นจริง ๆ