NT เร่งทำตลาด วันเว็บ คาดปั้นรายได้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 5 ปี
พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา มีมติให้ NT สามารถทำการตลาดกับ Eutelsat One Web เพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์ดาวเทียมวงโคจรต่ำ หรือ LEO (Low Earth Orbit หรือ LEO) ในประเทศไทย โดยมี NT เป็นตัวแทนจำหน่ายหลักในประเทศ สำหรับการให้บริการดาวเทียมบรอดแบนด์ครั้งแรกในประเทศ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับ NT ได้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 5 ปี (2569-2573) โดย NT เองยังมีรายได้จากการให้บริการเกตเวย์กับ วันเว็บ อีกปีละ 200 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ดาวเทียมบรอดแบนด์ LEO คือตลาดลูกค้าองค์กร ที่ต้องการใช้สัญญาณดาวเทียมในการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกล เช่น ตำรวจตะเวนชายแดน การเดินเรือ เป็นต้น เนื่องจากอุปกรณ์ยังมีราคาสูงหลักหมื่นบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเข้าอุปกรณ์ แต่เชื่อว่าในอนาคตราคาจะถูกลงตามความนิยมของตลาด และ อาจเข้ามาแทนที่บริการโมบายล์ เหมาะกับการให้บริการในพื้นที่ที่โครงข่ายโมบายล์ไม่สามารถเข้าถึงได้ โดย NT ยังเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพื่อช่วยทำตลาดในประเทศไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในสิ้นปี NT ยังได้ร่วมมือกับดาวเทียมบรอดแบนด์วงโคจรจต่ำ LEO ของจีนคือ SPACESAIL เพื่อเพิ่มศักยภาพการสื่อสารผ่านดาวเทียมในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทย รวมถึงการใช้งานบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียม การพัฒนาโซลูชั่นดิจิทัลและร่วมกันพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่สำหรับดาวเทียมวงโคจรต่ำ อีกด้วย
ด้านการ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์ ว่า ในปี 2569 มูลค่าการใช้จ่ายของผู้ใช้ปลายทางสำหรับบริการสื่อสารดาวเทียมวงโคจรต่ำ LEO ทั่วโลก จะมีมูลค่าแตะ 14.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24.5% จากปี 2568
Khurram Shahzad ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า ตลาดนี้กำลังเข้าสู่ช่วงขยายตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยผู้ให้บริการดาวเทียม LEO ที่มีอยู่มากกว่า 20 ราย และคาดว่าจะมีดาวเทียมมากกว่า 40,000 ดวง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ในปี 2569 การเติบโตที่ใหญ่ที่สุดของบริการสื่อสารดาวเทียม LEO จะมาจากกลุ่มธุรกิจ (Business) และกลุ่มผู้บริโภค (Consumer) ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีตัวเลือกการเชื่อมต่ออื่น โดยคาดว่ายอดการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นถึง 40.2% และ 36.4% ตามลำดับ ตามด้วยบริการ LEO สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (IoT) (32%) การเดินเรือและการบิน (13.8%) และการปรับปรุงความยืดหยุ่นของเครือข่าย (7.7%)
สำหรับ ยูสเคสการใช้งานที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับบริการสื่อสารดาวเทียมวงโคจรต่ำ สามารถจัดหมวดหมู่ออกเป็น 4 หมวดแตกต่างกัน ดังนี้
1. บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบคงที่และเคลื่อนที่
การใช้งานหลัก ๆ ของบริการดาวเทียม LEO ในช่วงแรก คือ ใช้สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบคงที่และเคลื่อนที่ โดยเฉพาะสำหรับไซต์ห่างไกล และใช้เพื่อเสริมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีอยู่ โดยบริการเหล่านี้รองรับยูสเคสการใช้งานต่าง ๆ เช่น การเชื่อมต่อในพื้นที่ที่ไม่มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สถานที่ชั่วคราว อาทิ ไซต์ก่อสร้าง หรือบนเรือและเครื่องบิน นอกจากนี้ยังใช้เพื่อการสื่อสารในระหว่างการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน หรือเพื่อปรับปรุงความยืดหยุ่นเป็นการเชื่อมต่อสำรองหรือการแบ็คอัพอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบดั้งเดิม
ตัวอย่างเช่น โดรนที่เชื่อมต่อดาวเทียม LEO ที่ถูกใช้ในออสเตรเลียผ่านการเชื่อมต่อมือถือ 4G/5G ในระหว่างเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือสายการบินของสหรัฐฯ บางแห่งที่เริ่มเสนอบริการอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ความเร็วสูงฟรีให้กับผู้โดยสารโดยใช้บริการสื่อสารดาวเทียม LEO
2. การเชื่อมต่อ IoT ทั่วโลก
ดาวเทียม LEO IoT เข้ามาเสริมหรือแม้แต่มาแทนที่เครือข่าย IoT แบบดั้งเดิม สำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ต้องการการครอบคลุมทั่วทั้งโลก โดยใช้แบนด์วิดท์และความหน่วงที่จำกัด เทคโนโลยีดาวเทียมนี้สามารถใช้สำหรับการติดตามทรัพย์สินได้ทั่วโลก ครอบคลุมภาคเกษตรกรรม น้ำมันและก๊าซ ทรัพยากรธรรมชาติ การขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงการรับรู้ทางทหาร (Military Sensing) และการตรวจสอบความปลอดภัย
ตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อ IoT ทั่วโลกกำลังถูกนำไปใช้สำหรับทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศโดยใช้ดาวเทียม LEO อย่างเช่น ในประเทศจีนผู้ผลิตรถยนต์ได้เปิดตัวดาวเทียม LEO 20 ดวง เพื่อปรับปรุงการนำทางสำหรับยานยนต์อัตโนมัติ และวางแผนที่จะมีกลุ่มดาวเทียมถึง 240 ดวง
3. การเสริมบริการอินเทอร์เน็ตมือถือ
บริการสื่อสารดาวเทียม LEO สามารถเสริมประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตมือถือ โดยให้ความครอบคลุมสัญญาณที่ไร้รอยต่อและเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านการเชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์ (Direct-to-Direct หรือ D2D) และการผสานรวมเข้ากับเครือข่าย 5G เหนือพื้นโลก (5G Non-Terrestrial Networks)
ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการสื่อสารของนิวซีแลนด์ที่เปิดตัวบริการดาวเทียม D2D LEO ช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งและรับข้อความในพื้นที่ 40% ของประเทศที่อยู่นอกเขตจากเสาส่งสัญญาณมือถือ โดยผู้อยู่อาศัยในหมู่เกาะคุก (Cook Islands) สามารถส่งข้อความผ่านดาวเทียมมาได้เกือบสองปีแล้ว
4. การเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานแบ็คฮอล
ทั้งผู้ให้บริการสื่อสารและองค์กรที่มีการดำเนินงานอยู่กระจัดกระจายตามภูมิศาสตร์ สามารถใช้ประโยชน์จากดาวเทียม LEO เพื่อเชื่อมต่อกับสัญญาณที่มีความเสถียรและมีแบนด์วิดท์สูง รองรับแอปพลิเคชัน การถ่ายโอนข้อมูล และความต้องการการสื่อสารที่มีความสำคัญ โดยไม่ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดภาคพื้นดินแบบเดิม
ตัวอย่างเช่น ดาวเทียม LEO สามารถให้การเชื่อมต่อที่จำเป็นเพื่อการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรป้องกันประเทศ ซึ่งมักต้องการลิงก์การสื่อสารที่มีความปลอดภัยและเสถียรในสภาพแวดล้อมที่ห่างไกลหรืออยู่ในเขตแดนข้าศึก