“อิ๊งค์”เมินตอบชิงลาออก
“อุ๊งอิ๊งค์” บอกคิดถึงนะ หลังถูกซักกระแสลาออกก่อน ศาลรธน.ฟันคดีคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ด้าน “สรวงศ์” ยัน "เพื่อไทย" ไม่กังวล กำลังใจยังดี “อนุทิน” คาดเลือกตั้งปี 69 ยังไม่มีอะไรชัด จะยุบสภาฯก็ไม่ได้ เหตุนายกฯ หยุดปฎิบัติหน้าที่อยู่ อุบ “นิพนธ์” ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” บอกการเมืองควรจะให้เป็นไปตามที่เป็นอยู่ ส่วน “สว.สีน้ำเงิน” ปัดข่าว “วุฒิฯ”จ่อโหวตคว่ำงบฯ69 ยันไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ
เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 12 ส.ค.68. ที่ท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ถึงกระแสข่าวการลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีคลิปเสียงการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยน.ส.แพทองธารไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่หันมายิ้มให้สื่อมวลชน และกล่าวว่า “คิดถึงนะคะ” ผู้สื่อข่าวพยายามถามอีกว่าอยากชี้แจงกระแสข่าวนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ตอบคำถามดังกล่าวและได้เดินฝ่าวงล้อมสื่อมวลชน เพื่อไปขึ้นรถเดินทางออกจากสนามหลวง
ด้าน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่า ทางพรรคไม่ได้กังวล รวมไปถึงไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ได้ทำให้ทางพรรคเพื่อไทยเสียกำลังใจ และกำลังใจยังดีอยู่" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว พร้อมทั้งยกนิ้วโป้งทั้งสองข้าง ให้สื่อ
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงกรณีที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ไปกินข้าวกับนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ อย่างชื่นมื่น จะย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ ว่า เป็นการไปอวยพร ขอให้ไปถามนายพิพัฒน์ ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ ตอนนี้นายนิพนธ์ ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ที่สำคัญช่วงนี้การเมืองควรจะให้เป็นไปตามที่เป็นอยู่ อย่าเพิ่งนั่งคิด เพราะการเลือกตั้งไม่ได้เกิดขึ้นเร็วๆนี้
เมื่อถามว่า ตอนนี้นายนิพนธ์รับบทตอบโต้แทนพรรคภูมิใจไทย เรื่องเขากระโดง นายอนุทิน กล่าวว่า ที่พูดเพราะเคยเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน และเป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองมากๆ
ส่วนเหตุใดจึงวิเคราะห์ว่าการเลือกตั้งไม่ได้ใกล้ในเวลานี้ ทั้งที่เดือนนี้และเดือนหน้าจะมีคดีสำคัญ หลายคดี นายอนุทิน กล่าวว่า
"วันนี้ถามว่าจะใกล้เลือกตั้งได้อย่างไร ไม่มีความชัดเจนอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะวันนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ มีการทักท้วงว่าการยุบสภา เป็นอำนาจของนายกเท่านั้น จึงยังไม่ได้ใกล้จุด นั้นเลย ขณะที่สภาฯก็เกิน 2 ปีมาแค่ 3 เดือน ทุกคน จึงคิดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีหน้า บรรดาพรรคการเมือง ก็คงไม่ได้คิดว่าจะต้องเลือกตั้งกลางปี 70 ถามคอการเมืองนักวิเคราะห์การเมืองก็ตอบว่าปี 69 พรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้คิดต่างกัน "
เมื่อถามว่ามองกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีจะลาออก ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นกระแสข่าว ไม่มีทางรู้ การตัดสินใจอะไรต่างๆ ก็เป็นเรื่องของแต่ละคน ทุกคนก็คิดวิเคราะห์กันไป แต่พรรคภูมิใจไทยเราก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน คนที่เคยปรามาส ว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นฝ่ายค้านไม่เป็น ไม่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีคุณภาพ แต่วันนี้ก็ทำหน้าที่ได้ตามบทบาท ที่เขาได้รับมอบหมายได้อย่างดี
เมื่อถามว่าจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยมองว่านายกรัฐมนตรีคนลาออกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้เป็นขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกฯก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกฯก็ทำตามกฎหมายทุกอย่าง ดังนั้น ถ้าทุกฝ่ายทำตามกฎหมาย จะไปบอกให้ใครทำอะไร ก็ไม่ถูก ก็ขอให้ทำตามกฎหมายให้ดีที่สุด และวันนี้เราก็ให้กำลังใจทุกคนที่เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว
ส่วน นายอลงกต วรกี สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 คนที่หนึ่งวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ69 ซึ่งสภาฯ เตรียมพิจารณาวาระสองและวาระสาม ในวันที่ 13-15 ส.ค. นี้ ว่า จะมีการติตามขณะเดียวกันในส่วนของกมธ.ของวุฒิสภา ยังมีการพิจารณาเนื้อหาและรายละเอียด โดยเชิญหัวหน้าส่วนราชการเข้ามาชี้แจงรายละเอียด และสว.มีหน้าที่ทำข้อสังเกต โดยวันที่ 13 ส.ค. นี้ กมธ.ของวุฒิสภา ได้เชิญหน่วยงานมหาดไทยเข้ามาชี้แจงในรายละเอียด ทั้งนี้การพิจารณารายละเอียดของสว. ไม่สามารถตัดหรือเปลี่ยนแปลงได้ มีหน้าที่เพียงตั้งข้อสังเกต หากพบว่างบบางตัวมีความแปลก เช่น งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ตั้งงบไว้สูงเพื่อใช้ทวงหนี้ผู้ที่ผิดนัดชำระเงินกู้ กยศ. หรือ งบประมาณบางหมวดที่เป็นเบี้ยหัวแตก งบการแก้ปัญหาทุจริตที่มีกระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ เป็นต้น
เมื่อถามว่าฝ่ายกมธ.ของสภาฯ ปรับลดงบประมาณของกระทรวงมหาดไทยสูงเป็นอันดับหนึ่ง มากถึง 2,148 ล้านบาท นายอลงกต กล่าวว่า เป็นปัญหาของรมว.มหาดไทย และเป็นปัญหาของพรรครัฐบาล ไม่เกี่ยวกับสว. เพราะสว.มีหน้าที่ให้ข้อสังเกต
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการโยกงบให้ท้องถิ่นบางพื้นที่ที่เป็นสายการเมือง นายอลงกต กล่าวว่า ตามกระบวนการ งบท้องถิ่นมี 2 กรณี คือ ตั้งปกติ และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โดยทั้ง 2 กรณีนั้นเสนอมาตามกระบวนการของจังหวัดและกระทรวง ส่วนจะมีใบสั่งหรือไม่ ตนไม่เห็นภาพลักษณ์ใบสั่ง ทั้งนี้มองว่าจากกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีตรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ถูกให้พ้นจากสส. และ ตัดสิทธิการเมือง เพราะมีประเด็นผิดมาตรา 144 นั้น ตนเชื่อว่าเขาจะมีความวิตกจริต และใช้ความละเอียดรอบคอบ ไม่กระจุกอยู่พรรคไหน แต่ส่วนตนไม่ได้ดูรายละเอียดเชิงลึก และการเปลี่ยนแปลงงบประมาณนั้นเป็นหน้าที่ที่ สส.พิจารณา ขณะที่สว.ทำเพียงการเสนอข้อสังเกต
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สว. อาจไม่เห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.งบฯ69 นายอลงกต กล่าวว่า ไม่มีไม่เห็นชอบแน่นอน ขอให้คิดดูว่า หากสว.ไม่เห็นชอบ จะใช้มูลเหตุอะไรไม่เห็นชอบ และส่วนตัวได้คุยกับหลายคนเห็นว่า หากสว.ไม่เห็นชอบกระบวนการต้องย้อนไปสส.อีก ดังนั้นสว.จะยื้อทำไม ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน หากสามารถนำเงินเข้าระบบได้เร็วเท่าไรยิ่งดี
"ผมมองว่า ไม่มีเหตุผลยับยั้ง แต่มีข้อสังเกตได้ แต่ไม่ควรที่จะชะลอการผ่านงบประมาณในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ งบประมาณอนุมัติเร็ว เท่ากับจ่ายเร็ว ส่วนที่บอกว่างบประมาณกระจุกตัวบางจังหวัด เช่น อุบลราชธานี ขอนแก่น เชียงใหม่ แต่งบเหล่านั้นกระจายตัวในพื้นที่” นายอลงกต กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าข่าวลือที่ผ่านงบ นั้นไม่จริงใช่หรือไม่ นายอลงกต กล่าวว่า “ไม่ผ่าน ได้ประโยชน์อะไร เพราะเงินเข้าระบบช้า ทำให้สังคมมองว่าสว.ดึง ไม่มีประโยชน์"
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่างบจังหวัดอาจมีเงินทอนขึ้นได้ นายอลงกต กล่าวว่า “สว.ไม่มีอำนาจยับยั้ง ลด หรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ไม่เหมือนกับ สส. ดังนั้นเงินทอนจะอยู่ที่ไหน”
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าส่วนตัวไม่กังวลใช่หรือไม่ นายอลงกต กล่าวว่า เป็นเรื่องของสส. ไมใช่เรื่องที่สว. กังวล เพราะ สว.ต้องรอพิจารณาจากสส. ดังนั้นความกังวลคือ สส. และหน่วยงาน สว. มีหน้าที่ตั้งข้อสังเกต หากหน่วยงานที่มาชี้แจงตอบไม่ได้ สว.ทำได้แค่ตั้งสังเกต และนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา ช่วงวันที่ 25-26 ส.ค. นี้