เด็กพรรคส้ม กระหน่ำ กอ.รมน. งบกำลังพลซ้ำซ้อน ดับไฟใต้ไม่บรรลุเป้าหมาย
"รอมฎอน" ชำแหละงบ กอ.รมน. เรียกร้องให้ชี้แจงงบใช้จ่ายโดยละเอียด หลังส่งมาแค่บรรทัดเดียว ชี้ งบกำลังพลซ้ำซ้อน ตั้งคำถาม ประกาศยาเสพติดเป็นภัยคุกคามใหม่ เพื่อเป็นเหตุผลตั้งงบประมาณหรือไม่
13 สิงหาคม 2568 - เวลา 15.40 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายมาตรา 7 สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องงบ กอ.รมน. ที่พึ่งพาวิกฤติไฟใต้ ซึ่งจะเห็นจากการใช้งบประมาณใน 7 หน่วยงานนี้ ซึ่ง กอ.รมน. เป็นอันดับแรกที่มีงบกว่า 6,000 ล้านบาท อันดับต่อมา สมช. 39 ล้านบาท ดังนั้น เราจะมาดูที่งบ กอ.รมน. ในการดับไฟใต้ที่ตั้งงบไว้ 5,335 ล้านบาท ซึ่งเมื่อไปดูในรายละเอียด หากดูงบประมาณ ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือน เป็นงบประมาณที่ตั้งไว้ในแผนงานบุคลากร จะพบว่า หน่วยงาน กอ.รมน. ที่เป็นหน่วยงานภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี มีงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการดับไฟใต้ 6,021 ล้านบาท ในขณะที่มีภาวะพึ่งพาต่อคุกคามภายใต้การดำรงอยู่ของ กอ.รมน. จึงสัมพันธ์กับสถานภาพของปัญหาภาคใต้เป็นภาวะที่พึ่งพากันและกันด้วย และ กอ.รมน. อยู่ได้ด้วยภัยคุกคาม
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดจำนวนเหตุการณ์ สามารถบรรลุตามตัวชี้วัดได้ แต่เมื่อไล่เรียงไปตัวชี้วัดที่วางเป้าหมายไว้ว่าในปี 2570 เหตุรุนแรงจะเป็นศูนย์ แต่เมื่อนับจาก ปี 65 เป็นต้นมา จำนวนเหตุรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น 3 ปีซ้อน และในปีนี้ผ่านมาแค่ 5 เดือนแรก ก็ถือว่าทะลุกรอบไปแล้ว ซึ่งเรากำลังจะบอกว่า ตัวชี้วัดของ กอ.รมน. เองตกเกณฑ์จนน่าตกใจ
สำหรับกำลังพลและการดำเนินงานที่ตั้งไว้ 3,412 ล้านบาท ซึ่งถูกลดในชั้นกรรมาธิการแล้ว 20 ล้านบาท ซึ่งมองว่าควรลดได้มากกว่านี้ เพราะกรณีถูกมองว่าการใช้งบเกี่ยวกับกำลังพล และงบประมาณในจังหวัดชายแดนใต้ ไม่โปร่งใส และมีกำลังพลที่ไม่ได้ปฏิบัติงานจริงอยู่ในพื้นที่ด้วย ซึ่งเลวร้ายกว่านั้นคืองบประมาณเอง อาจกลายเป็นปัจจัยและกลไกสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งได้ ถือเป็นข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างรุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม ตนเองได้ไปฟังคำอธิบายของเจ้าหน้าที่ที่มาชี้แจง ก็จะพบว่าในยอด 3,400 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็น 2 ก้อน คืองบประมาณพลกว่า 70% และงบอำนวยการและบริหารอีกประมาณ 30% ซึ่งเมื่อแบ่งดูใน 7 หน่วยงาน จะพบว่ากองทัพบกรับไปมากที่สุด รองลงมาเป็น กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า แต่ยังมีงบที่คล้ายกันคือค่าตอบแทนพิเศษ จึงมองว่าเป็นการตั้งงบเกี่ยวกับกำลังพลที่ซ้อนกันอยู่
นายรอมฎอน ยังตั้งคำถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทาง กอ.รมน. จะแจกแจงรายละเอียดว่างบบรรทัดเดียวนี้ สามารถแบ่งจ่ายมีโครงการที่จะจัดขอมามีรายการอะไรบ้าง และให้หน่วยงานต่าง ๆ อย่างไรบ้าง ไม่ใช่ส่งมาแค่บรรทัดเดียวแบบนี้ และยังกล่าวถึงกองกำลังตำรวจที่ได้รับงบกว่า 300 ล้านบาท แต่ก็ยังมีงบในค่าที่พักของตำรวจอีกอีก ซึ่งต้องให้งบประมาณจากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานจริง เพราะมิเช่นนั้น งานก็จะโหลดกับคนที่ปฏิบัติงาน และจะส่งผลต่อขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานด้วย ถ้าตัดลดได้จริงควรตัดทั้ง 10% แต่หากตัดไม่ได้ก็ต้องไล่เรียงรายละเอียดให้ชัดเจน
นายรอมฎอน กล่าวต่อว่า การสนับสนุนและการใช้งานเครือข่ายมวลชน ซึ่งเป็นการสนับสนุน และใช้งานเครือข่ายมวลชนเพื่องานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เงินอุดหนุนช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายสามกลุ่มคือกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะผู้พิการกว่า 68 ล้านบาท โดยมีการตั้งคำถามว่างบประมาณหายไป ผู้พิการที่เป็นพลเรือนมีคำถามว่าเขาก็พิการเหมือนกัน แต่ทำไมถึงได้รับสิทธิ์ไม่เท่ากันจากทางเจ้าหน้าที่ เพราะตั้งไว้แค่ 10 ปี
นายรอมฎอน ทิ้งท้ายว่า กอ.รมน. กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งข่าวเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ อาจดูเบาลงไป แต่ข้อเท็จจริงและตัวเลขก็ประกาศว่ายาเสพติดเป็นภัยคุกคาม ประกาศใช้กฎอัยการศึก และดูเหมือนว่าขณะนี้ กอ.รมน. ต้องการประกาศภัยคุกคามใหม่ เพื่อที่จะมีเหตุผลในการตั้งงบประมาณเพิ่มมากขึ้นหรือไม่