ด่วน! เปิดคำวินิจฉัย "กกต." เชือด "หมอเกศ" ฉบับเต็ม 13 หน้า ส่งศาลฏีกาฯ สั่งเพิกถอนสิทธิ "สว."
21 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติคำวินิจฉัย กกต.กรณีตรวจสอบวุฒิการศึกษาของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. โดย กกต.มีมติให้ดำเนินคดีกับ "พญ.เกศกมล" ในความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งและคดีอาญา
กรณีใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” จำนนด้วยหลักฐาน ไม่เคยทำงานในตำแหน่ง "ศาสตราจารย์" เข้าข่ายหลอกลวงผู้มาลงคะแนน ซึ่งจะมีอัตราโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี และตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี
โดยคำวินิจฉัย ส่วนหนึ่ง ระบุว่า
ฐานข้อมูลผู้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่ที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) และ คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กำหนด ประกอบกับไม่ปรากฎหลักฐานว่ามีสถาบันอุดมศึกษาใดเคยขอให้ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พิจารณาดำเนินการเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งบุคคลดังกล่าวให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ และจากการตรวจสอบข้อมูลมูลปรากฏว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ยังไม่เคยพิจารณาเทียบคุณวุฒิการศึกษาจาn California University และ Califonia University FCE
ประกอบกับผู้ถูกร้องก็ให้ถ้อยคำว่า ไม่เคยทำงาน ในตำแหน่งศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย ข้อเท็จจริงจึงเป็นที่ยุติว่า ผู้ถูกร้องมิได้มีตำแหน่ง
อีกทั้งพยานที่ไต่สวนประกอบคนที่ 3 ถึงคนที่ 33 ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาและเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศ ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า
ข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว. 3) ซึ่งระบุว่า ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย มีผลจูงใจให้ลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง
ดังนั้น การที่ผู้ถูกร้องแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่าเป็น "ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย" โดยที่ผู้ถูกร้องมิได้ ดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ตามกฎหมายของประเทศไทย
จึงเป็นการหลอกลวง หรือจูงใจให้บุคลอื่นเข้าใจผิด ในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของผู้ถูกร้อง เพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือก ลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นการทุจริตในการเลือก และทำให้การเลือกมิได้เป็นโปไปโดยสุจริตหรือเที่ยงรรม
อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2563 มาตรา 62 และมาตรา 77 (4) ฯลฯ