Business Today Thai Politics 23 กรกฎาคม 2568
นายกฯ ขอทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมเต็มที่รับมือ “พายุวิภา”
รัฐสภา วันนี้ ( 23 ก.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้ารัฐสภา และ โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียถึงสถานการณ์พายุวิภา ว่า
จากสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุวิภา รับทราบว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่ระบบเตือนภัย Cell Broadcast และมีการตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งศูนย์อพยพ เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข โรงครัว ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามการแจ้งข่าวจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด
“ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานอยู่อย่างเต็มกำลังขณะนี้ เราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน”นางสาวแพทองธาร กล่าว
“สุริยะ” ยัน “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำพรรคแค่แชร์ประสบการณ์
ทำเนียบ วันนี้ ( 23 ก.ค.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนนี้ ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันไปจนถึงหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า
สิ่งที่นายทักษิณพูดก็เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคอยากจะจับมือกันอยู่แล้ว ซึ่งปกติหลังการเลือกตั้ง พรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็คิดที่จะจับมือกันกับรัฐบาลเดิมเป็นอันดับแรก หัวหน้าพรรคทุกพรรคก็คิดเช่นนั้น ดังนั้น สิ่งที่นายทักษิณพูดไม่ใช่เรื่องแปลก
ส่วนการพูดแบบนี้เป็นการตัดพรรคภูมิใจไทยออกจากสมการ ไม่สามารถจับมือกันได้ในอนาคตใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ปกติภายหลังการเลือกตั้ง เราก็จะมาดูผลแพ้ชนะว่าเป็นอย่างไร หากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจับมือกันแล้วได้เสียงเกินไปมาก ก็ไม่จำเป็นต้องหาเสียงจากพรรคฝ่ายค้านเดิมมาร่วม แต่หากไม่เพียงพอ ก็ต้องไปพูดจากัน และครั้งนี้จำนวนเสียงปริ่มนํ้า นายทักษิณขอให้ทุกพรรคสามัคคีและจับมือกัน
โดยเฉพาะการดูแลเสียงในสภา ที่เคยทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชีประสานกับ สส. ซึ่งคนอาจจะมองว่าเป็นการจ่ายเงินหรือไม่ นั้น นายสุริยะ บอกว่า คงไม่ใช่ การที่มีเสียงปริ่มนํ้า จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรครู้ดีถึงเสียงปริ่มนํ้า และจะทำให้ทุกคนเกิดความสามัคคีกันมากขึ้น ขณะเดียวกัน ถ้าเสียงเกินไปพอประมาณ ก็อาจทำให้มีการประมาท และจะทำให้เป็นปัญหามากกว่าเสียงปริ่มนํ้า
ส่วนการที่นายทักษิณมาพูดในงานของพรรคร่วมรัฐบาล อาจทำให้มีผู้ไปร้องว่าเป็นการครอบงำนั้น ส่วนตัวที่ฟังก็ไม่เห็นมีตรงไหนที่เป็นการครอบงำรัฐบาล เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องพรรคร่วมรัฐบาลที่จะตัดสินใจ นายทักษิณคงไม่สามารถบังคับพรรคร่วม หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยเอง เพราะทุกพรรคก็มีกรรมการบริหารพรรคดำเนินการอยู่ แต่การที่ท่านมาพูด เพราะเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ จึงมาแชร์ให้พรรคร่วมทราบ
ทั้งนี้ นายทักษิณประกาศว่าได้ลูกมาเป็นนายกรัฐมนตรี และได้พ่อมาช่วยด้วย ทำให้แยกเรื่องการครอบงำไม่ได้ สุริยะ มองว่า ความเป็นพ่อลูก มาพูดคุยกัน มาแชร์ประสบการณ์กัน เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้มีเรื่องการครอบงำแต่อย่างใด
“ชูศักดิ์” หวังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยทำประชามติ 2 ครั้ง
ทำเนียบ วันนี้ ( 23 ก.ค.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดวินิจฉัยประเด็นการทำประชามติเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวนกี่ครั้ง ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าต้องทำ 2 ครั้ง ก็หมายความว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย
โดยมีสาระสำคัญที่มาของ สสร. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน กระจายตามจำนวนประชากร และของพรรคประชาชน ที่ค้างอยู่ในรัฐสภา ก็สามารถเดินต่อไปได้เลย เพราะประธานรัฐสภา สั่งบรรจุวาระแล้ว และเดินหน้าต่อไปเลย จนถึงโหวตวาระ 3 ทั้งนี้ระหว่างการพิจารณาต้องดูเกณฑ์เรื่องเสียงของ สว.ต้องเห็นชอบ 1 ใน 3 ถึงจะสำเร็จได้ ดังนั้นเราต้องไปทำการบ้าน
เมื่อถามว่า ความคาดหวังของรัฐบาล หากศาลรัฐธรรมนูญบอกให้ทำ 2 ครั้ง เป้าหมายอยากให้สำเร็จถึงขั้นตอนไหน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า มีอยู่เงื่อนไขหนึ่งว่า สว.จะเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งวันที่ 21 ก.ค. ตนได้ตอบกระทู้เรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมวุฒิสภา และได้บอกขอความกรุณา ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาก็ต้องช่วยกันหน่อย อย่างไรก็ตามหากเรื่องนี้ไปต่อได้ การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่แตะหมวด 1 และ หมวด 2 โดยจะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เข้าใจว่าอาจไม่ทันรัฐบาลชุดนี้
ดังนั้นตนจึงตั้งความหวัง ว่าแม้จะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ตั้งสสร.ให้ได้ ดังนั้นประการแรก คือ สว. เห็นชอบประชามติครั้งแรกต้องผ่าน จึงจะสามารถตั้ง สสร.ได้ แม้จะมีการยุบสภาฯ สสร.ก็ยังคงทำงานต่อได้ และเสนอรัฐธรรมนูญให้สภาฯชุดใหม่ดำเนินการต่อไปได้
นายชูศักดิ์ กล่าวว่าหากศาลรัฐธรรมนูญบอกต้องทำประชามติจำนวน 3 ครั้ง ก็หมายความว่าเราต้องเริ่มใหม่ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวทั้ง 2 ร่างใช้ไม่ได้ ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน ว่าจะมีการให้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับใหม่หรือไม่
“อนุทิน” สวนแม้ว ลั่นเป็นสุภาพบุรุษการเมืองไม่เคยเหน็บแนม
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานเลี้ยงสส.พรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ โดยนายอนุทิน ย้อนถามนักข่าวว่า จะให้ตอบว่าอะไร ได้ฟังดูจากข่าวไม่ได้รู้สึกอะไร
ส่วนที่หาว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษหมายถึงคนอื่นหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า อย่าไปเอาคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเลย วันนี้ประเทศไทยควรหาทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความสามัคคี เรามีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านอยู่คนไทยควรรักกันเองเป็นหนึ่งเดียวให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้
ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นไปตามที่เขากล่าวหาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่รู้จะตอบอย่างไร คำว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ แปลว่าอะไรการไม่รักษาข้อตกลงอย่างนั้นเขาเรียกอะไร พร้อมหัวเราะ และบอกว่าตนอยู่เฉย ๆ ข้อตกลงคือกำกับดูแล มหาดไทย แรงงาน อว. และกระทรวงศึกษา
เมื่อถามว่าที่นายทักษิณประกาศว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้าก็จะเป็นทีมเดิมเหมือนกับไม่เอาพรรคภูมิใจไทยแล้วนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เห็นแปลกถ้าเอาสิแปลก ท่านก็พูดถูกของท่าน
เมื่อถามว่าถ้าเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกในโอกาสหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมีจุดยืนอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า คำตอบอยู่ในคำพูดของนายทักษิณอยู่แล้ว ต้องไปถามท่านไม่ใช่ถามผม
ส่วนมองปฏิกิริยาของนายทักษิณที่พยายาม เดินสายหาเวทีพูดอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องไปถามท่าน ว่าเหตุผลการกระทำของแต่ละคน ที่คนระดับนี้ต้องมีเหตุผลของท่านเอง ที่ไปคาดเดาแล้วไม่เกิดประโยชน์ หากจะไปคาดเดาก็ไม่เกิดประโยชน์
ส่วนจะทำให้คนคิดถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร น้อยลงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โน คอมเมนต์ ก่อนบอกว่า ” ผมก็ยังคิดถึงท่านอยู่นะ” มาถามว่าน้อยใจหรือไม่เมื่อถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลแล้วกลับโดนถล่มแบบนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า หัวไม่ได้ล้านจะมาน้อยใจอะไร ผมยังเต็มหัวอยู่
เมื่อถามว่าในทางการเมืองใช้คำว่าผีไม่เผาเงาไม่เหยียบได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ในทุกบริบทบางทีก็ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร บางทีผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ บางทีก็พูดอย่างทำอย่าง ใครจะบัญญัติมาใช้ แต่พรรคภูมิใจไทยแน่นอน ว่าพูดแล้วทำอย่างเดียว
เมื่อถามว่าเขาผิดสัญญาในรอบนี้และการเลือกตั้งครั้งหน้าจะกล้าไปร่วมรัฐบาลกับเขาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องกล้าเพราะคราวที่แล้ว ผมก็ไม่ได้ไปร่วมรัฐบาลเอง แต่เขาเชิญพูดแบบนี้ผมเสียหาย คราวที่แล้วพรรคภูมิใจไทยถูกเชิญที่ไปกินช็อคมิ้น คนที่เชิญก็บอกว่าเชิญด้วยเงื่อนไขแบบนี้
เมื่อถามว่าไปเวทีไหนนายทักษิณก็พูดเหน็บพรรคภูมิใจไทย แม้กระทั่งบอกว่ามีลูกชายประกาศว่าพ่อจะได้เป็นนายกเดือนสิงหาคมนี้ นายอนุทิน ระบุว่า คนนั้นไม่ใช่ลูกผม ลูกผมไม่มีวันพูด ลูกผมคนรู้จักเยอะไม่พูดแบบนั้นแน่นอน ผมสอนลูกมาดี
“ศิริกัญญา” แซะ “ดินเนอร์พรรคร่วม” นับองค์ประชุมทีไร สภาล่มทุกที
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการรับประทานอาหารพรรคร่วมรัฐบาล โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมด้วย และรัฐบาลประกาศว่า มีเอกภาพขึ้น และสัญญาว่า จะร่วมรัฐบาลกันต่อนั้น
นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เมื่อวานมีการจัดใหญ่ไฟกระพริบ ซึ่งที่ผ่านมามีการดินเนอร์กันหลายรอบ แต่จะเป็นโต๊ะเล็กจำกัดผู้เข้าร่วม โดยจะมีแค่หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค แต่รอบนี้น่าจะมีการเข้าร่วมเกือบ 100 ชีวิต ซึ่งจะเป็นการแบ่งกล้ามโชว์ว่า สามารถเอาอยู่ และกระชับรวบรวมเสียง พรรร่วมรัฐบาลได้เป็นอย่างดี เพื่อแสดงพลังของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนเดียวไม่พอ แต่ยังมีพ่อของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาแสดงพลังร่วมด้วย
ในทางหนึ่งก็อาจจะโชว์ความเป็นปึกแผ่น แต่ส่วนตัวมองเห็นถึงความไม่มั่นใจ ที่จำเป็นจะต้องแสดงออกในที่สาธารณะว่า เราสามารถทำได้ และเราเอาอยู่ แต่หลังบ้านนั้นไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไร เพราะเมื่อนับองค์ประชุมเมื่อไหร่สภาก็ล่มทุกที ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่า เสถียรภาพจะเกิดขึ้นจริงภายใต้ดินเนอร์ใหญ่โตหรือไม่