นบข.ไฟเขียว 5 หมื่นล้าน อัด 4 มาตรการ อุ้มชาวนา ฝ่าวิกฤตราคาข้าว
การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 สืบเนื่องจาก คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด มีมติเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ให้เสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)เพื่อรองรับในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากและปรับปรุงการผลิตข้าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาราคาข้าวเปลือกให้มีเสถียรภาพโดยเก็บข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรไม่ให้ออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่เกษตรกรในระหว่างรอการขายผลิตผลข้าวเปลือก
นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงผลการประชุม นบข. ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการประชุม ได้มีการอนุมัติ การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 จำนวน จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2568/69 เป้าหมาย 3 ล้านตัน คาดว่าจะใช้งบ 3.3 หมื่น ถึง 3.7 หมื่นล้านบาท
2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2568/69 เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน วงเงิน 15,000 ล้านบาท
3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2568/69 เป้าหมาย 4 ล้านตัน วงเงินจ่ายขาด 642 ล้านบาท
4.โครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะใช้วงเงินรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท
นายนัยฤทธิ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และการดำเนินโครงการในกิจกรรมการเปลี่ยนแปลงการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว ประกอบด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และธ.ก.ส. นำเสนอ นบข.ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาตามระเบียบต่อไป
อย่างไรก็ในที่ประชุม นบข. ยังมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการร่วม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำโครงการและรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อ ครม.ตามมาตรา 27 และ มาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ของรัฐ พ.ศ.2561 และมอบหมายให้กรมการค้าภายในและกรมการค้าต่างประเทศ หารือหน่วยงานทีเกี่ยวข้องเพื่อเสนอโครงการเพื่อเพิ่มช่องทางในการระบายผลผลิตสู่ต่างประเทศ
ด้าน นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึง เงินช่วยเหลือชาวนา หรือ โครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมศักยภาพพื้นที่ มอบหมายให้กรมการค้าภายในร่วมกับ ธ.ก.ส. จัดทำโครงการฯ ในส่วนของการสนับสนุนอัตรา 500 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 10 ไร่ และสนับสนุนปัจจัยการผลิตผ่านกลไกกระเป๋าเงิน ธ.ก.ส. อัตรา 500 บาทต่อไร่
"แต่กรณีเกษตรกรมีความประสงค์ปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว (ดำเนินการต่อเนื่อง 3-5 ปี) ในอัตรา 1,500 บาทต่อไร่ อย่างไรก็ดีสถานการณ์การส่งออกข้าวยังมีความเป็นห่วงเนื่องจากประเทศผู้นำเข้าข้าวลดลง สต็อกแต่ละประเทศยังสูงอยู่"