Redmi เปิดตัว Note 14 SE 5G : ชิป Dimensity 7025, จอ AMOLED 120 Hz, ชาร์จไว 45 W, ราคา 5,600 บาท
Redmi แบรนด์ในเครือ Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนราคาประหยัดรุ่นล่าสุดในซีรีส์ Note 14 นั่นคือ Note 14 SE 5G อย่างเป็นทางการที่ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดสมาร์ตโฟนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมาพร้อมสเปกที่ใกล้เคียงกับ Redmi Note 14 5G เมื่อปี 2024 และสีตัวเครื่องใหม่ เรียกว่า Crimson Art
Redmi Note 14 SE 5G นั้น ได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ Super AMOLED สุดคมชัด ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1,080 × 2,400 พิกเซล) ซึ่งมีรีเฟรชเรตหลายระดับ ตั้งแต่ 60 Hz, 90 Hz และ 120 Hz เพื่อรองรับเนื้อหาที่แตกต่างกัน เช่น เล่นเกมด้วยรีเฟรชเรต 120 Hz (รีเฟรชภาพ 120 ครั้งต่อวินาที) ซึ่งช่วยให้แสดงการเคลื่อนไหวของภาพได้อย่างนุ่มนวลที่สุด เป็นต้น
หน้าจอดังกล่าวมีอัตราตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจออย่างรวดเร็วที่ความถี่ 2,160 Hz, ความสว่างสูงสุด 2,100 Nit, รองรับค่าสีระดับ 10 บิต และป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
ด้านการประมวลผลนั้น ใช้ศักยภาพจากชิปเซตระดับกลาง MediaTek Dimensity 7025 Ultra ที่ได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 6 นาโนเมตร, ติดตั้งแกนซีพียู (CPU: Central Processing Unit) จำนวน 8 คอร์ และชิปประมวลผลกราฟิก (GPU: Graphics Processing Unit) อีก 1 ตัว ดังนี้
- แกน Cortex-A78 ความเร็วสูงสุด 2.5 GHz จำนวน 2 คอร์
- แกน Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2.0 GHz จำนวน 6 คอร์
- ชิปกราฟิก IMG BXM-8-256 ความเร็วสูงสุด 900 MHz
ชิปเซตดังกล่าวจะทำงานร่วมกับแรม LPDDR4X ความจุ 6 GB และสตอเรจ UFS 2.2 ความจุ 128 GB บนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ HyperOS ที่ Xiaomi พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของระบบ Android 15
ด้านการถ่ายภาพนั้น ได้รับการติดตั้งกล้อง จำนวน 4 ตัว ดังนี้
- กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ Sony LYT-600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว และรูรับแสงกว้างระดับ f/1.5 ช่วยให้เก็บแสงได้มากขึ้น
- กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.2
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.4
- กล้องเซลฟี ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
Redmi Note 14 SE 5G รองรับการเชื่อมต่อ 5G ทั้งแบบ Standalone และ Non-Standalone (ย่านความถึ่ n1/n3/n5/n8/n28/n40/n78), Wi-Fi 802.11ac (2.4 GHz + 5 GHz) และ Bluetooth 5.3 รวมถึงระบุตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม GPS (สหรัฐฯ) และ GLONASS (รัสเซีย) และติดตั้งพอร์ต USB Type-C
นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 5,110 mAh ซึ่งรองรับเทคโนโลยีชาร์จไฟเร็วที่ 45 W, ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้แผงหน้าจอ, เซนเซอร์อินฟาเรด, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และลำโพงสเตอริโอ ซึ่งรองรับมาตรฐานเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res Audio ภายใต้บอดีที่มีความบาง 7.99 มม., หนักเพียง 190 กรัม และมีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP64 ซึ่งช่วยป้องกันฝุ่นและละอองน้ำรอบทิศทาง
Redmi จะเริ่มจำหน่าย Note 14 SE 5G ในวันที่ 7 สิงหาคม 2025 ผ่านสโตร์ออนไลน์บนเว็บไซต์ mi.com และ Flipkart โดยมี 3 สี ได้แก่ Crimson Art, Mystique White และ Titan Black ในราคาเพียง 14,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 5,600 บาท