หนัง 'F1' ของ Apple ทำเงินทั่วโลกกว่า 500 ล้านเหรียญ: ทำกำไรให้บริษัทเป็นเรื่องแรก
เว็บไซต์ 9to5Mac ได้รายงานว่า ‘F1: The Movie’ ภาพยนตร์ของ Apple Original Film แผนกที่รับผิดชอบด้านการผลิตภาพยนตร์ภายใต้แบรนด์ Apple และจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกโดย Warner Bros. ประสบความสำเร็จด้านรายได้อย่างสูง ภายหลังจากเปิดตัวทั่วโลกเมื่อสุดสัปดาห์ระหว่างวันที่ 27 – 29 มิถุนายน 2025 ด้วยรายได้ 146.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่หลายสื่อคาดการณ์ไว้
รายงานดังกล่าวระบุว่า ‘F1: The Movie’ ทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 500 ล้านเหรียญ เป็นที่เรียบร้อย มาอยู่ที่ 509 ล้านเหรียญ ภายหลังจากฉายในระดับโลกประมาณ 1 เดือน (นับถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2025) โดยเป็นรายได้ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 165 ล้านเหรียญ และรายได้จากต่างประเทศ อยู่ที่ 344 ล้านเหรียญ
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ‘F1: The Movie’ ใช้ทุนสร้างมหาศาลกว่า 300 ล้านเหรียญ แต่ตัวภาพยนตร์ได้รับการลดหย่อนภาษีและได้รับเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์จำนวนมาก ซึ่งทำให้ทุนสร้างจริง ๆ นั้นอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นั่นหมายความว่า ‘F1: The Movie’ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่สร้างผลกำไรให้กับ Apple ภายหลังจากทุ่มงบลงทุนมหาศาลไปกับโปรเจกต์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ ดังนี้
- ‘Killers of the Flower Moon’ (2023) ของ มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) : ทำรายได้ทั่วโลกสุทธิ 158.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- ‘Napoleon’ (2023) ของ ริดลีย์ สกอตต์ (Ridley Scott) : ทำรายได้ทั่วโลกสุทธิ 221.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- ‘Argylle’ (2024) ของ แมทธิว วอห์น (Matthew Vaughn) : ทำรายได้ทั่วโลกสุทธิ 96.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- ‘Fly Me to the Moon’ (2024) : ทำรายได้ทั่วโลกสุทธิ 42.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ด้วยความสำเร็จระดับนี้ อาจทำให้ Apple และ Warner Bros. ตัดสินใจส่ง ‘F1: The Movie’ ยืนโรงฉายต่อไปอีกระยะ ก่อนที่จะถึงกำหนดฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิง Apple TV+ ในเดือนตุลาคม 2025 นี้
ผลงานต่อไปของ Apple Original Film ในปี 2025 คือ ‘Highest 2 Lowest’ ซึ่งเป็นการกลับร่วมงานกันอีกครั้งระหว่างผู้กำกับระดับตำนาน สไปก์ ลี (Spike Lee) และนักแสดงเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์อย่าง เดนเซล วอชิงตัน (Denzel Washington)