ชาวลพบุรีร่วมสืบสานประเพณีหล่อเทียนพรรษา 9 วัด
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่วัดดงน้อย ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี นายรัฐพล ธุระพันธ์ นอภ.เมืองลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระครูจันทสิริธร หรือ หลวงพ่อสารันต์ จนฺทูปโม เจ้าอาวาสวัดดงน้อย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีเปิดโครงการสืบสานวัฒนธรรม "ยลถิ่นกกโก ทำบุญใหญ่โต หล่อเทียน 9 วัด" ในงานประเพณีหล่อเทียน และแห่เทียนพรรษา 9 วัด ประจำปี 2568 จัดโดยเทศบาลตำบลกกโก
นายก่อภณ ฮุ้นสกุล นายกเทศมนตรีตำบลกกโก กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานดังกล่าว เนื่องจากภายในพื้นที่เทศบาลตำบลกกโก ต้องการให้พุทธศาสนิกชนทุกท่านที่มาวัดเดียวได้ทำบุญถึง 9 วัด ประกอบด้วย วัดดงน้อย วัดป่าสัก วัดกกโก วัดบ้านไร่ วัดขุนนวน วัดบ้านใหม่ วัดโคกม่วง วัดใหม่จำปาทอง และวัดอัมพวัน โดยมีพุทธศาสนิกชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาและถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 2568 รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริม สืบสาน และอนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่มีมาแต่โบราณ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ในพื้นที่ได้ร่วมกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา พร้อมกับได้เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีเกิดความรัก ความสามัคคี ของคนในชุมชน และประชาชน จะได้ร่วมกันทำบุญร่วมกันและยังเป็นการปลูกฝังค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม สร้างความภาคภูมิใจให้กับเด็ก เยาวชน ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต
สำหรับประเพณีหล่อเทียนพรรษา 9 วัด ของจ.ลพบุรี เป็นประเพณีสำคัญของไทยที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาอันเป็นการถวายเทียนแก่พระสงฆ์ไว้ใช้จุดบูชาพระรัตนตรัยในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งการหล่อเทียนพรรษาเป็นกิจกรรมที่แสดงถึงความสามัคคีของคนในชุมชน และเป็นการส่งเสริมพระพุทธศาสนา ส่วนประเพณีแห่เทียนพรรษา เกิดจากความจำเป็นที่ว่าสมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นปัจจุบัน เมื่อพระภิกษุอยู่รวมกันมากๆ จะปฏิบัติกิจวัตร เช่น การสวดมนต์ตอนเช้ามืดและพลบค่ำ การศึกษาพระปริยัติธรรม การบูชาพระรัตนตรัย ฯลฯ จำเป็นต้องใช้แสงสว่างจากเทียนชาวบ้านก็ได้ร่วมกันนำเทียนมาถวาย ซึ่งช่วงต้นก็คงจะถวายเป็นเทียนเล็กๆ ธรรมดา จนต่อมาก็ได้มีการมัดเทียนเล็กๆ มารวมกันเป็นต้นคล้ายต้นกล้วยหรือลำไม้ไผ่ แล้วติดกับฐานที่เรียกกันว่าต้นเทียน หรือ ต้นเทียนพรรษา จากนั้นก็วิวัฒนาการมาเป็นเทียนพรรษาอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน