สึกแล้ว"เจ้าคุณประสิทธิ์"วัดประยุรวงศาวาสฯ ถือฤกษ์ 18.09 น.

จากการที่ "พระเทพปวรเมธี" หรือ เจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นหนึ่งในรายชื่อพระสงฆ์ที่มีความเกี่ยวพันกับ สีกากอล์ฟ ล่าสุด 16 ก.ค.68นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า พระเทพปวรเมธี อดีตรองเจ้าคณะภาค 15 และอดีตผจล.วัดประยูร ลาสิกขา เวลา 18.09น.(ยืนยันจากพระใกล้ชิด)

ก่อนหน้านี้ทาง พระครูวินัยธรวิเชียร วชิรธัมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ในฐานะผู้แทนวัดประยุรวงศาวาสฯ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ขณะนี้ถือว่า เจ้าคุณประสิทธิ์ พักจากการปฏิบัติหน้าที่ในทุกตำแหน่งของพระสังฆาธิการ ตั้งแต่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ ขึ้นไป จนกว่าการชำระอธิกรณ์จะเสร็จสิ้น และมีข้อวินิจฉัย

ส่วนการดำเนินการ จะอยู่ที่เจ้าคณะผู้ปกครองที่มาหเถรสมาคมแต่งตั้ง โดยมีเจ้าคณะใหญ่หนกลางเป็นประธาน ก็ต้องดูข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าท่านปฏิบัติผิดทางวินัยอย่างไรแค่ไหน แต่จากข้อมูลภาพแชทต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวตอนนี้ ก็มองว่า การพูดคุยในแชทเท่าที่เห็นในตอนนี้ มากที่สุดก็อาบัติถึงแค่ขั้นสังฆาทิเสส ไม่ถึงขั้นปาราชิก เพราะถ้าปาราชิก จะต้องเข้า 4 เงื่อนไข คือ เสพเมถุน / ลักขโมย / ฆ่ามนุษย์ / อวดอุตริมนุสสธรรม

ทั้งนี้ การจะลาสิกขาหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง หากไม่ได้ปาราชิก ก็ไม่มีอำนาจไปบังคับ เพราะโทษทางวินัยมีทางออกอยู่แล้ว ถ้าอาบัติสังฆาทิเสส ก็ต้องให้ปริวาสกรรม เพื่อปลงอาบัติ และในแง่ความเป็นพระสังฆาธิการ เจ้าคณะผู้ปกครองก็จะพิจารณาโทษจริยาสังฆาธิการอีกส่วนหนึ่ง ตามลำดับขั้นคือ เตือน ทำทัณฑ์บน หรือปลดออกจากทุกตำแหน่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าคณะผู้ปกครอง

ส่วนเมื่อวานนี้ ที่เจ้าคุณประสิทธิ์เข้าไปพบเจ้าคณะใหญ่หนกลางที่วัดไตรมิตรฯ เนื่องจากทางเจ้าอาวาสสั่งให้ไปเข้าพบเอง เพราะทางนั้นมีจดหมายมา เรียกให้เข้าไปพบ แต่จะเข้าไปพบแล้วว่าอย่างไรบ้างนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับทางวัดแล้ว เจ้าอาวาสก็จะไม่ไปก้าวก่าย // ทั้งนี้ หลังไปที่วัดไตรมิตรฯ ตนก็ไม่ทราบว่าเจ้าคุณประสิทธิ์กลับมาจำวัดหรือไม่ เพราะตนไม่เห็น แต่หากไม่ได้กลับมา ไปจำพรรษาที่วัดอื่น ก็ต้องแจ้งเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้ปกครองอยู่แล้วว่าไปจำวัดที่ไหน

เมื่อถามว่า เจ้าอาวาสเครียดหรือไม่ หลังปรากฏภาพหลักฐานชัดเจน พระครูวินัยธรวิเชียร บอกว่า ในฐานะผู้ปกครอง เมื่อเกิดปัญหาจึ้นในวัด ก็ต้องไม่สบายใจอยู่แล้ว แต่ปัญหาไม่ได้มีไว้ให้มานั่งกลุ้ม ต้องหาทางแก้ไขปัญหา โดยนำกฎเกณฑ์ของคณะสงฆ์มาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งท่านก็ดำเนินการอยู่

ส่วนเจ้าคุณประสิทธิ์ ท่านเป็นคนพูดน้อย เป็นเสือยิ้มยาก และด้วยความเป็นพระผู้ใหญ่ก็จะไม่ค่อยปรากฏตัวออกสื่ออยู่แล้ว ซึ่งจากภาพหลักฐานที่ปรากฏออกมา สำหรับตนมองว่าพระเป็นเหยื่อมากกว่า และรู้สึกสงสารเหยื่อ บางรูปก็เสียเงินเสียทอง บางรูปก็ลาสิกขา แล้วบางรูปก็อาจจะคิดมากและกระทำมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ในแง่ของคณะสงฆ์ ก็ทำให้ท่านขาดความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ผู้ปกครอง ในการจะให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน