สาวเฉียดตาย พักผ่อนน้อย ใช้ชีวิตหนัก Strokeมาเยือน 1ในแสนที่รอด
เมื่อไม่นานมานี้โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปจากเฟซบุ๊ก "Birdie Parva" ซึ่งเจ้าตัวโพสต์เล่าประสบการณ์เฉียดตายจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือStroke ทั้งที่อายุเพียง 32 ปี และไม่มีโรคประจำตัว โดยเธอเผยว่าอาการเริ่มต้นมาจากการทำงานหนัก ถ่ายแบบด้วยท่าต้องเอียงคอนานถึง 17 ครั้งติดต่อกัน เป็นเหตุให้ "ผนังหลอดเลือดคอฉีก" และเกิดลิ่มเลือดอุดตันในสมอง จนต้องเข้าห้องไอซียูเป็นการด่วน โดยเธอเล่าว่า
ที่ผ่านมาเบอร์ดี้อาจไม่ค่อยได้ active เพราะต้องพักฟื้นจาก Stroke เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2024 ตอนนั้นผนังหลอดเลือดเบอร์ดี้ฉีกและเกิดลิ่มเลือดอุดตันในสมอง ต้องผ่าตัดและพักฟื้นยาว
อาการเริ่มต้นที่ดูเหมือนเล็กน้อย แต่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ในคลิป เบอร์ดี้เล่าว่า อาการเริ่มแรกที่เกิดขึ้นในวันนั้น คือ
- หูอื้อ ไม่ค่อยได้ยิน
- เหมือนจะเป็นลม
- ปวดหัวข้างขวาอย่างรุนแรง
- ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด
สุดท้ายต้องหามส่งโรงพยาบาลด่วน หมอวินิจฉัยว่าเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองอุดตัน เซลล์สมองเสียหายไปแล้วกว่า 20% เส้นเลือดฝั่งขวาหายไปครึ่งซีก โชคดีที่สามารถเข้ารับการรักษาทัน “นาทีทอง” ภายใน 4.5 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ
หมอต้องผ่าตัดเพื่อคีบลิ่มเลือดออก เพราะยาสลายลิ่มเลือดไม่ได้ผล เนื่องจากเธอกินน้ำน้อย พักผ่อนน้อย ทำแต่งาน นอนดึก ตื่นเช้า เครียดตลอดเวลา โดยรวมไลฟ์สไตล์แย่มากๆ
หลังผ่าตัด หมอบอกเป็น 1 ในแสนที่รอดแบบนี้ได้
เบอร์ดี้ต้องนอนโรงพยาบาล 2 สัปดาห์ ทำกายภาพบำบัด และฝึกสมองต่อเนื่อง หมอยืนยันว่าเป็น “เคสหายาก” ที่โชคดีมาก เพราะโดยทั่วไปผู้ป่วย Stroke จะมีปัญหาด้านการพูด การเคลื่อนไหว หรือสูญเสียความสามารถบางส่วนถาวร แต่เธอฟื้นตัวได้ดี และต้องใช้เวลาฟื้นฟูต่อเนื่อง 1 ปี
เบอร์ดี้ฝากถึงทุกคนว่า ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนจะสายเกินไป โดยเน้น
- ลดความเครียด
- นอนหลับให้เพียงพอ
- ทานอาหารดี ลดหวาน มัน เค็ม
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
อยากแชร์ไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ ว่าโรคนี้ไม่เลือกอายุ ไม่เลือกคนแข็งแรง ใครก็เป็นได้… ขอบคุณทุกคนที่ห่วงเบอร์ดี้ ขอบคุณพี่แพท พี่พันช์ ทีมงานพี่นุ่น และที่สำคัญแม่กับป๊าที่อยู่ดูแล 24 ชั่วโมง หนูโชคดีมากค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจากBirdie Parva