นายจ้างขัดใจ? Remote Work เติบโตต่อ 8% สะท้อนตลาดงานเปลี่ยนไปถาวร
แม้หลายองค์กรจะเร่งออกคำสั่งให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศ (Return to office : RTO) แต่เทรนด์การทำงานระยะไกล (Remote Work) ยังคงเติบโตอย่างชัดเจนตลอดไตรมาส 2 ของปี 2025 นี้ ตัวชี้วัดจากรายงานล่าสุดสะท้อนว่าความต้องการทำงานแบบยืดหยุ่นกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในตลาดแรงงานทั่วโลก
โดยการวิเคราะห์ล่าสุดจาก FlexJobs เผยว่า แม้หลายบริษัทจะประกาศคำสั่งให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ขณะเดียวกัน อัตราการเปิดรับตำแหน่งงานแบบ Remote work ยังเพิ่มขึ้นถึง 8% ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2025
สะท้อนว่าการทำงานทางไกลไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกชั่วคราวแค่เฉพาะช่วงภาวะโควิด แต่กลับพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ในโลกการทำงาน และกำลังกลายเป็นองค์ประกอบหลักของตลาดแรงงานในระยะยาว
ตำแหน่งงาน Remote work พุ่งไม่หยุด แม้หลายองค์กรเร่งนโยบาย RTO
ข้อมูลจากการสำรวจโดย Cisco พบว่า 72% ขององค์กรมีนโยบาย Return‑to‑Office (RTO) อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม จำนวนตำแหน่งงานทางไกลบนเว็บไซต์หางานกลับไม่ได้ลดลง และไม่แม้แต่จะหยุดนิ่ง ในทางตรงกันข้าม มันกลับขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ Remote work กลายเป็นความต้องการหลักของพนักงานในยุคนี้ จากผลสำรวจพบว่า 95% ของคนทำงานต้องการมีตัวเลือกในการทำงานทางไกล ไม่ว่าจะแบบเต็มเวลา หรือแบบ Hybrid และ 63% ยังให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นนี้มากจนถึงขนาดว่า มันสำคัญยิ่งกว่าเงินเดือนเสียอีก
โทนี ฟรานา (Toni Frana) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพของ FlexJobs บอกเพิ่มเติมในรายงานว่า แม้เรื่อง RTO จะเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างต่อเนื่อง แต่คนส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าตนเองสามารถทำงานได้ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงานแบบ Remote หรือ Hybrid มากกว่าแบบดั้งเดิม
อาชีพไหนมีอัตราตำแหน่งงาน Remote work มากสุด เงินเดือนดีสุด ?
หากเจาะลึกไปยังหมวดงานที่เติบโตในรูปแบบ Remote อย่างมีนัยสำคัญ ก็พบว่า อาชีพในสายคอมพิวเตอร์และ IT การบริหารโครงการ (Project Management) รวมถึงงานด้านการสื่อสาร มีการเปิดรับตำแหน่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ขณะที่สายงานด้านการศึกษา และการฝึกอบรม รูปแบบการทำงานทางไกลก็เติบโตไม่แพ้กัน โดยเฉพาะงานกลุ่ม Project Management และ Sales ที่มีอัตราการเปิดรับตำแหน่งงานลักษณะนี้สูงสุด
ในแง่ของค่าตอบแทน งานในกลุ่ม Senior Product Manager อยู่ในกลุ่มรายได้สูงสุดสำหรับรูปแบบการทำงานระยะไกล โดยมีรายได้เฉลี่ยปีละ 134,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 4,400,000 บาทต่อปี) ตามมาด้วย Senior Software Engineer ที่มีรายได้เฉลี่ยราว 130,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 4,200,000 บาทต่อปี) และ Account Executive ที่ประมาณ 115,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 3,760,000 บาทต่อปี) รวมถึงตำแหน่งงานทางไกลในบางบริษัท ประมาณ 5% ของทั้งหมด ยังเปิดโอกาสให้สามารถทำจากที่ใดก็ได้ทั่วโลกอีกด้วย
Remote Work ไม่ใช่แค่โอกาสวัยทำงาน แต่คือเกมชิงแรงงานของบริษัท
ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า การเติบโตของตำแหน่งงานแบบ Remote Work สะท้อนว่านี่ไม่ใช่โอกาสให้คนทำงานทั่วไป แต่มันคือเกมชิงความสามารถระหว่างองค์กร โดย เควิน ทอมป์สัน (Kevin Thompson) ซีอีโอของ 9i Capital Group ให้สัมภาษณ์กับ Newsweek ว่า ในตลาดงานที่กำลังแข่งขันกันรุนแรง บริษัทต่างมักใช้ความยืดหยุ่นของการทำงาน เป็นเครื่องมือดึงดูดพนักงานคนรุ่นใหม่แทนสวัสดิการดั้งเดิมในอดีต
ขณะที่ ไบรอัน ดริสโคลล์ (Bryan Driscoll) ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาด้าน HR ยังเสริมอีกว่า การเพิ่มขึ้นของตำแหน่ง Remote Woek ตอกย้ำว่า RTO เป็นเรื่องของ “อำนาจควบคุม” มากกว่าเรื่องประสิทธิภาพ พนักงานที่เหนื่อยล้าจากงานล้นมือและต้องเข้าออฟฟิศเกือบทุกวัน มักตัดสินใจลาออกเพื่อหางานใหม่ที่ให้ความยืดหยุ่นแทน
ขณะที่ อเล็กซ์ บีน (Alex Beene) อาจารย์สอนด้านการเงิน เผยว่า หลายบริษัทเลือก “กลับมาเปิดรับสมัครงาน โดยชูเรื่อง Remote Work เป็นหลักอีกครั้ง” เพื่อดึงดูดคนที่มีคุณภาพเข้าทีม
จากผลสำรวจของ MyPerfectResume ยังชี้ว่า 51% ของคนทำงาน พร้อมจะลาออกทันทีหากเจอนโยบายสั่งกลับเข้าออฟฟิศ ที่ไม่สามารถต่อรองได้ และ 40% ของคนทำงานยุคนี้กำลังมองหาตำแหน่งงานที่ให้ทำงานระยะไกลได้อย่างจริงจัง
ทอมป์สัน ทิ้งท้ายว่า Remote Work คือวิวัฒนาการของการทำงานในโลกยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่เทรนด์การทำงาน แต่เป็นอนาคตของแรงงาน เมื่อบริษัทรู้จักเลือกคนที่ใช่ ทีมงานผู้ซึ่งทำงานระยะไกล ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้ไม่แพ้การนั่งทำงานในออฟฟิศเดียวกัน
อ้างอิง: Newsweeks