เตือนภัย! “พายุวิภา” ทำฝนตกหนัก 23-24 ก.ค. “ภูมิธรรม” นำถกวอร์รูมรับมือ 30 จังหวัดเสี่ยง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมวอร์รูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กับผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวม 30 จังหวัด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการนำระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน Cell Broadcast รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล อุปกรณ์ เครื่องมือ และเครื่องจักรกลในพื้นที่เสี่ยง เพื่อสามารถเข้าปฏิบัติงานได้อย่างทันท่วงที
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีปภ. กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนภัยล่วงหน้าผ่านระบบ Cell Broadcast ด้านอุทกภัย 15 ครั้ง ดินโคลนถล่ม 9 ครั้ง รวมทั้งหมด 24 ครั้ง สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่เฝ้าระวัง จ.น่าน ที่อ.เชียงกลาง มีปริมาณน้ำฝนสะสมในรอบ 24 ชั่วโมง 291.6 มิลลิเมตร จ.พะเยา ที่อ.เชียงคำ ปริมาณน้ำฝนสะสม 264 มิลลิเมตร จ.เชียงราย ที่อ.เวียงแก่น ปริมาณน้ำฝนสะสม 185 มิลลิเมตร
ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเรื่องพายุวิภา ฉบับที่ 15 วันนี้ (23 ก.ค.) ระบุว่าเมื่อเวลา 07:00 น. พายุวิภาได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว บริเวณแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว และเมื่อเวลา 10:00 น. ได้เคลื่อนเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน คาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีก
โดยมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบน ออกไปทางประเทศเมียนมา ในช่วง 25 – 26 กรกฎาคม 2568 จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยกำลังแรง จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 23 - 24 กรกฎาคม 2568 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ดังนี้
วันที่ 23 กรกฎาคม 2568
ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม
ภาคกลาง นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568
ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง อุทัยธานี และกาญจนบุรี
ภาคตะวันออก นครนายก จันทบุรี และตราด
สำหรับทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ภาพจาก กระทรวงมหาดไทย, ศูนย์ประชาสัมพันธ์ร่วมจังหวัดน่าน