โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

ตำรวจบางพลีรวบตัวทันควันสาวอำนาทเจริญตุ๋น 5 ชาวลาว หลอกมาทำงานผ่านทางเฟซบุ๊ก

77kaoded

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • 77Kaoded

ตำรวจบางพลีรวบตัวสาวอำนาทเจริญ ได้ทันควัน หลังไปก่อเหตุหลอก 5 ชาวลาว ว่าจะจัดหางานให้ แล้วออกอุบายว่ายจะพาไปหาห้องพักพร้อมให้กดเงินมาให้ แล้วหลอกให้ยืนรอ ก่อนจะชิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างไป จนกระทั้งหนึ่งในผู้เสียหายได้มาเจอตัวกำลังจะก่อเหตุซ้ำกับคนอื่น จึงรีบแจ้งตำรวจเข้ารวบตัว เจ้าตัว เผยว่า เคยรับจ๊อบเป็นอีเจนซี่จัดหาคนงาน จึงจะพอรู้ช่องทาง เจ้าตัวอ้างว่าที่ทำเพราะไม่มีเงินเลี้ยงลูกเนื่องจากเลิกรากับสามีไปแล้ว และเป็นหนี้นอกระบบรายวัน จึงทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบตัดสินใจก่อเหตุ ด้านตำรวจ ได้แจ้งข้อหา ฉ้อโกง และอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาลักทรัพย์

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รองผกก.สส.สภ.บางพลี ร่วมกันสอบปากคำผู้เสียหาย ชายหญิงชาวลาวรวม 5 คน หลังจากที่พากันเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับ นางสาว แพร อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดอำนาทเจริญ ในข้อหา ฉ้อโกง และลักทรัพย์ หลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายชาวลาวกลุ่มนี้ ถูกนางสาวแพร ก่อหลอกลวงให้เดินทางมาจากจังหวัดอยุธยา เพื่อมาทำงานและเปิดห้องเช่าให้ ก่อนจะเชิดเงินค่าเช้าห้องและโทรศัพท์ของผู้เสียหายหลบหนีไป จนกระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้กลางห้างชื่อดังย่านบางพลี ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง

นาย ทอง หนุ่มชาวลาว หนุ่มในผู้เสียหาย บอกว่า ตนเองและแฟนสาวพากันมาเที่ยวหาญาติที่จังหวัดอยุธยา แล้วต้องการหางานทำในประเทศไทย จึงเข้าไปดูในกลุ่มหางานของเฟสบุ๊ค และพบว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊คคนหนึ่ง ในชื่อว่าคุณนุ่น ได้โพสต์ในกลุ่มว่าต้องการรับสมัครงาน โดยจะให้ไปทำงานในร้านอาหาร และได้ค่าแรงวันละ 400 บาท ตนจึงสนใจ และทักไปหาคนที่โพสต์ ก็คือตัวนางสาวแพร จนกระทั่งนางสาวแพรติดต่อกลับมาว่า จะให้มาทำงาน แต่จะต้องเดินทางมาพบที่ห้างย่านบางพลี โดยให้เรียกรถผ่านแอฟ ตนเองและแฟนด้วยความที่ยากมีงานทำส่งเงินกลับบ้านเกิดที่ประเทศลาว จึงยอมเดินทางมา นางสาวแพร ตามนัด หลังจากที่เดินทางมาถึง ก็พูดคุยกับนางสาวแพร และนางสาวแพร แจ้งว่า ตนเองและแฟนจะต้องเสียเงินเป็นค่าเช่าห้องเพื่อจะได้ทำงาน โดยจะต้องวางมัดจำและค่าเช่าเดือนแรก รวมเป็นเงิน 4000 บาท ตนจึงกดเงินสดเอทีเอ็มทั้งหมดที่มีในบัญชี 4000 บาท ออกมา พอได้เงินสด นางสาวแพร ออกอุบายกับแฟนว่าจะพาไปดูห้องพัก ให้ตนเองรออยู่ที่หน้าห้าง แฟนจึงเดินตามนางสาวแพรไป โดยที่นางสาวแพร เป็นคนถือเงิน 4 พันบาท พร้อมทั้งเอาโทรศัพท์ของตนเองไปด้วย ตอนแรกตนเองก็ไม่คิดอะไร เพราะความไว้ใจและเห็นว่าแฟนไปด้วย จนผ่านไปราวชั่วโมงเศษแฟนกลับมาแจ้งว่า นางสาวแพร หลอกให้ยืนรอแล้วหายตัวไป ตนจึงไปถามหานางสาวแพรกับคนในละแวกนั้น จนมีพี่ขับวินรถจักรยานยนต์บอกว่าเพิ่งรับไปส่งที่ห้างอีกแห่ง จึงรีบเดินทางไปที่ห้างดังกล่าว พอไปถึงก็พบว่า นางสาวแพร กำลังก่อเหตุซ้ำกับคนงานชาวลาวอีก 3 คน จึงรีบแจ้งตำรวจเข้ารวบตัว

ขณะที่ นาย ปลั๊ก หนึ่งในผู้เสียหายอีกคนบอกว่า ตนเองและเพื่อนรวม 3 คน ก็ถูกก่อเหตุ ในลักษณะเดียวกัน และติดต่อผ่านมาทางกลุ่มหางานในเฟสบุ๊คเช่นกัน ซึ่งเงินทั้งหมดที่ถูกนางสาวแพรหลอกไปนั้น เป็นเงินเก็บกันที่เหลืออยู่ และตอนแรกตั้งใจจะพากันกลับบ้าน แต่พอเห็นว่ามีการรับสมัครงานและนางสาวแพรแจ้งว่าจะให้นายจ้างไปทำเรื่องขอทำบัตรสีชมพูเพื่อทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจึงหลงเชื่อจนกระทั่งมาถูกหลอกดังกล่าว

ทั้งนี้กลุ่มผู้เสียหายอยากฝากบอกเตือนภัยสำหรับใครที่คิดจะหางานผ่านทางออนไลน์ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนจะกลายเป็นเหยื่อของนักต้มตุ๋นแบบนี้

ส่วนนางสาว แพร ผู้ก่อเหตุ ให้การกับทางผู้กำกับทั้งน้ำตา ยอมรับว่าตั้งใจก่อเหตุหลอกเอาเงินของกลุ่มผู้เสียหายจริง แต่ที่ทำลงไปนั้นเพราะมีความจำเป็น เนื่องจากตนเองมีลูกเล็กและเลิกรากับสามีไป จนไม่มีเงินเลี้ยงลูก อีกทั้งยังติดหนี้นอกระบบรายวันจึงทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบตัดสินใจก่อเหตุ ส่วนที่ทำในลักษณะนี้ได้นั้นเพราะตนเองเคยรับจ๊อบเป็นอีเจนซี่จัดหาคนงานจึงพอจะรู้ช่องทางในการโพสต์ดึงดูให้คนต่างด้าวที่หางานเข้ามาติดต่อตัวเอง ตำรวจยังถามต่ออีกว่าทำแบบนี้มาแล้วกี่ครั้ง นางสาวแพร ยอมรับว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง

ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี ระบุยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เชื่อว่ามีผู้เสียหายมากกว่านี้ จึงอยากประชาสัมพันธ์หากมีผู้เสียหายรายใดที่ตกเป็นเหยื่อนางสาวแพร ขอให้มาแจ้งความ เนื่องจากเป็นภัยต่อสังคม ส่วนนางสาวแพร เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา ฉ้อโกง และอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหาลักทรัพย์ เรื่องที่เอาโทรศัพท์ของผู้เสียหายไป ส่วนกลุ่มผู้เสียหายจากการตรวจสอบพบเอกสารพาสสปอร์ตสัญชาติลาวถูกต้องและยังมีกำหนดพักอาศัยในราชอาณาจักรไทยในฐานะนักท่องเที่ยว จึงไม่ใช่แรงงานที่หลบหนีเข้าเมือง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก 77kaoded

ขอนแก่น แถลงผลการดำเนินงานเชิงรุกตามนโยบาย NO Drugs NO Dealers เดินหน้าป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดครอบคลุมทุกมิติ ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กฟผ. รับมือพายุ “วิภา” ดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าและระดับน้ำในเขื่อนเต็มที่

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คนงาวไม่ทิ้งกัน” งาวระดมหลายภาคส่วนทำข้าวกล่องแจกผู้ประสบภัยน้ำท่วม

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สลด! หนุ่มขี่จยย. ซ้อน4 ซิ่งลงจากเนินเขาสูงชัน เสียหลักเจ็บระนาว หนูน้อยวัย 2ขวบดับ

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่น ๆ

Warrix ร่วมส่งแรงใจ สร้างเยาวชนคิดดี

TOP NEWS ONLINE

"ฮุน ซาเรือน"โพสต์ระอุ ทัวร์ไทยลงยับจนปิดเฟซฯหนี

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

"คิดดีCool the World" เปิดเวทีเยาวชนคิดดี สร้างสรรค์แคมเปญลดโลกร้อน

TOP NEWS ONLINE

‘ป่อเต็กตึ๊ง’ มอบอุปกรณ์ทำอาชีพ วีลแชร์ จักรยาน เตียงผู้ป่วย แก่ รร.ในศรีสะเกษ และรพ.ในอุบลราชธานี

เดลินิวส์
วิดีโอ

ถึงมือ! “เมลาย-เสือ ดุสิต” ประกาศเตรียมไปตาเมือนธม หลัง“แก๊งน้ำไม่อาบเขมร” นัดรวมพลขี่สแมชบุกไทย!

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

'อภิสิทธิ์' เสนอผ่าทางตัน 2 เรื่อง รื้อใหญ่โครงสร้างเศรษฐกิจไทย

ฐานเศรษฐกิจ

เปิด "ปฏิบัติการจักรพงษ์ภูวนารถ" โล่เหล็กปกป้องอธิปไตยไทย

Thai PBS

'อภิสิทธิ์' จี้ถามรัฐบาล เจรจาภาษีทรัมป์ ต้องแลกอะไรบ้างเพื่อให้ได้ 20%

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...