“อรรถกร” จับมือ “ธนดล มือปราบทุจริต” ลุยแก้ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ให้เกษตรกรสะแก้ว
“อรรถกร” จับมือ “ธนดล มือปราบทุจริต” ลงพื้นที่ ส.ป.ก. สระแก้ว ลุยแก้ปัญหาที่ดิน เร่งจัดสรรแปลงว่างให้เกษตรกร
วันที่ 5 ก.ค.68 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการในอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว พร้อมจับมือกับนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษากฎหมายประจำกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งได้รับฉายา “มือปราบทุจริต” ร่วมกันเร่งแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. และผลักดันให้มีการจัดสรรที่ดินแปลงว่างแก่เกษตรกรที่ขาดแคลนอย่างเป็นธรรมและตรวจสอบได้
จุดหมายสำคัญของการลงพื้นที่ครั้งนี้ คือ บ้านซับม่วง หมู่ที่ 2 ตำบลโคคลาน อำเภอตาพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ยังคงมีแปลงว่างจำนวนหนึ่งยังไม่ได้จัดสรรอย่างเป็นระบบ รัฐมนตรีอรรถกรและคณะได้ลงตรวจสอบพื้นที่จริง พร้อมรับฟังปัญหาจากเกษตรกรในพื้นที่โดยตรง เพื่อวางแผนการดำเนินงานในเชิงรุก
“วันนี้ผมและทีมงานมาติดตามด้วยตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของพี่น้องเกษตรกรจะถูกนำไปใช้ในการแก้ปัญหาที่แท้จริง พื้นที่ ส.ป.ก. ต้องเป็นของผู้ที่มีความจำเป็นและใช้ทำกินจริงเท่านั้น”
- นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในระหว่างการประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จังหวัดสระแก้ว หน่วยงานในพื้นที่ และตัวแทนชาวบ้าน รัฐมนตรีอรรถกรได้เน้นย้ำถึงการเร่งรัดการจัดสรรแปลงว่างให้กับเกษตรกรที่ขาดแคลน พร้อมขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการป้องกันการนำที่ดินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
ขณะเดียวกัน นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “มือปราบทุจริต” ของกระทรวงฯ ก็ได้แสดงบทบาทเชิงรุก โดยให้คำมั่นว่าจะเร่งเดินหน้าตรวจสอบแปลงที่ดินที่ถูกครอบครองโดยไม่ถูกต้อง และผลักดันให้กระบวนการจัดสรรเป็นไปตามกฎหมายอย่างเข้มงวด
“หากพบว่ามีการครอบครองผิดกฎหมาย จะดำเนินการตามขั้นตอนทันที ไม่มีละเว้น ที่ดินของรัฐต้องกลับมาอยู่ในมือของประชาชนผู้มีสิทธิอย่างแท้จริง”
- นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หลังเสร็จสิ้นภารกิจในพื้นที่ คณะรัฐมนตรีฯ ได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงเย็นของวันเดียวกัน โดยใช้พาหนะของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะนำข้อมูลจากภาคสนามในครั้งนี้ไปใช้ประกอบการเสนอแนะเชิงนโยบายต่อคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อผลักดันให้การจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก. ทั่วประเทศเป็นไปอย่างเป็นระบบ โปร่งใส และนำไปสู่ความยั่งยืนในภาคเกษตรกรรม