ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดป้ายชื่ออุโบสถกลางน้ำ “ทศมราชบพิตรปุณฑริกาคารสีมา” และถวายพระพุทธนวราชบพิตร วัดป่านาโสกฮัง
ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดป้ายชื่ออุโบสถกลางน้ำ “ทศมราชบพิตรปุณฑริกาคารสีมา” และถวายพระพุทธนวราชบพิตร วัดป่านาโสกฮัง
วันนี้ 5 ก.ค.68 เวลา 18.32 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดป้ายชื่ออุโบสถกลางน้ำ “ทศมราชบพิตรปุณฑริกาคารสีมา” ณ วัดเกาะแก้ว และเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระพุทธนวราชบพิตร แด่พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) ณ วัดป่านาโสกฮัง ตำบลหนองสามสี อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดเกาะแก้ว
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล เสร็จแล้ว พลเรือตรี สมศักดิ์ คงโชติ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว นางสาวอัจฉริยา เกตุทัต เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กราบบังคมทูลรายงาน ประวัติความเป็นมา และวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างอุโบสถกลางน้ำ “ทศมราชบพิตรปุณฑริกาคารสีมา” เสร็จแล้ว เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังแท่นหน้าอุโบสถกลางน้ำ ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่ออุโบสถ “ทศมราชบพิตรปุณฑริกาคารสีมา” อ่านว่า ทด-สะ-มะ-ลาด-ชะ-บอ-พิด-ปุน-ทะ-ลิ-กา-คาน-สี-มา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนามให้ อันแปลว่า อุโบสถอันเป็นเขตสังฆกรรมรูปทรงดุจดอกบัวบุณทริก ประจำรัชกาลที่ ๑๐ โดยได้อัญเชิญพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. ขึ้นประดิษฐานเหนือนามพระราชทานที่หน้ามุข
ทัังนี้อุโบสถกลางน้ำ สร้างขึ้นเพื่อทดแทนอุโบสถหลังเก่า ที่มีสภาพทรุดโทรมลงตามกาลเวลา โดยคณะสงฆ์และประชาชนได้อาราธนาให้ พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) เมตตาเป็นหลักดำเนินการก่อสร้าง ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม2567
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการถ่ายทอดความรู้หลักคำสอนเรื่อง “สัมมาทิฎฐิ” ผ่านสถาปัตยกรรมอุโบสถ เป็นศาสนสมบัติด้านถาวรวัตถุในบวรพระพุทธศาสนา อันเป็นสถานที่ที่พระภิกษุจะใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจของคณะสงฆ์ และสร้างเป็นสถาปัตยกรรมในรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน โดยอุโบสถก่อสร้างเป็นรูปทรงดอกบัว มีน้ำเป็นสีมา เรียกว่า “อุทกุกเขปสีมา” (อุ - ทะ - กุก - เข - ปะ - สีมา) โดยถือว่าน้ำเป็นนิมิตธรรมชาติ จึงไม่มีการฝังลูกนิมิตและผูกพัทธสีมา
จากนั้น เสด็จเข้าอุโบสถกลางน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียน เครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระประธานประจำอุโบสถ ทรงกราบ ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย ในแผ่นศิลา จากนั้น พระอธิการโจม ขนฺติโก เจ้าอาสวัดเกาะแก้ว ถวายของที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว เสด็จออกจากอุโบสถกลางน้ำ ไปยังบริเวณโพธิมณฑล
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการหลักปฏิบัติธรรมนาวา “วัง” 7 ขั้นตอน การนำยา 7 เม็ด ซึ่งเป็นจุดเด่นของหลักธรรมนาวา "วัง" ไปปฏิบัติ ประกอบด้วย ยาเม็ดที่ 1 และ 2 เป็นการท่องพระรัตนตรัยและการทักอารมณ์, ยาเม็ดที่ 3 และ 4 ท่องธาตุกรรมฐานและพิจารณากายโดยให้จิตเห็นความจริงของกายสู่ความเป็นธาตุ ส่วนยาเม็ดที่ 5, 6 และ 7 คือ การท่องขันธ์ 5 พิจารณาอารมณ์ลงสู่ความเป็นขันธ์ 5 จนจิตเข้าใจความจริงของจิตเองและเข้าสู่หลักอริยสัจ 4 อันเป็นที่สุดแห่งการดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิทศมราชบพิตร แล้วเสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัย ไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้ว พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสให้ นางทองสี เพียรกล้า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองสามสี กราบบังคมทูล เบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินเพื่อจัดสร้างอุโบสถกลางน้ำ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก ตามลำดับ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดป่านาโสกฮัง ตำบลหนองสามสี อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาญเจริญ
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดป่านาโสกฮัง เสด็จเข้าศาลาการเปรียญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย
ทรงกราบ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม พระพุทธนวราชบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ถวายพระพุทธนวราชบพิตร แด่พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) เจ้าหน้าที่อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตรขึ้นประดิษฐานบนบุษบกเรียบร้อยแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดป่านาโสกฮัง พร้อมด้วยคณะสงฆ์ และประชาชน ประกาศพระปริตรถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
พระพุทธนวราชบพิตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง23 เซนติเมตร สูง 40 เซนติเมตร ที่บัวฐานด้านหน้าบรรรพระพิมพ์ พระสมเด็จจิตรลดา ไว้อีกองค์หนึ่ง พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระพุทธนวราชบพิตรให้เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัด ประดิษดิษฐานไว้ ณ ทุกจังหวัด และเป็นพระพุทธรูปประจำหน่วยทหาร ประดิษฐานไว้ ณ กองบัญชาการหน่วยทหารพระพุทธนวราชบพิตร นอกจากจะถือว่าเป็นนิมิตหมายแห่งคุณพระรัตนตรัย อันเป็นที่เคารพสุดแล้ว ยังถือเสมือนเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศไทยและ กลมเกลียวกันของประชาชนชาวไทยอีกด้วย
เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดป่านาโสกฮัง เฝ้า ถวายหนังสือที่ระลึก สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองสามสี อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร