นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เปิดโครงการ "พายซัพ พายคายัด มาบอกฮัก" ลำน้ำบางปะกง
วันที่ 5 ก.ค.68 ที่วัดเทพนิมิตร ต.ย้านใหม่ อ.เมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 5 ภาคีเครือข่ายจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดกิจกรรม "พายซัพ พายคายัด มาบอกฮัก ลำน้ำบางปะกง ครั้งที่ 2" โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) จังหวัดฉะเชิง เทรา โดยมี นายกลยุทธ ฉายแสง นายกองค์การบริหารส่วน จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานฯ และมีแขกผู้มีเกียรติร่วมกิจกรรมอาทิ สส.ฐิติมา ฉายแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฉะเชิงเทราเขต 1 นางขวัญกมล ฉายแสง นายกเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา นายยุทธนา มาตเจือ ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา ในการเปิดกิจกรรมฯ พร้อมยกระดับนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดฉะเชิงเทราเพิ่มมากขึ้นสำหรับ 5 ภาคีเครือข่ายจังหวัดฉะเชิงเทราใด้แก่ เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา YEC หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา สมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทรา (กู้ภัยฉะเชิงเทรา) ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภายใต้โครงการ "เที่ยวคูล ๆ เรียนรู้วิถีชุมชน เชิงสร้างสรรค์
ซีซั่น 2" ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้รับทราบเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ โดยใช้พาหนะ และอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ซัพบอร์ด คายัค พร้อมทั้งนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยววิถีชุมชน เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการกระจาย รายได้ลงสู่ชุมชนอย่างแท้จริงเส้นทางพายชัพ พายคายัค เปิดเส้นทาง วัดเทพนิมิตรไปวัดแหลมได้ กราบพระนอนกระจกอายุกว่า 100 ปี ลงซัพบอร์ดพายผ่านคลองกลาง ลอดซุ้มต้นจากออกแม่น้ำบางปะกงไปวัดแหลมไต้ ทำบุญกับน้าผี กราบพระนอน ท้าวเวสสุวรรณ ทานปังเย็นแพวัดแหลมใต้ แวะพักเหนื่อยเดินเลือกซื้อสินค้าชุมชมชนตลาดบ้านใหม่ 100 ปี ขึ้นท่าน้ำที่ร้านป้าหนู และเดินทางกลับไปยังวัดเพพนิมิตร รวมระยะทาง 3 กิโลเมตร ค่าสมัครท่านละ 499 บาทราคานี้รวมชัพบอร์ดพร้อมอุปกรณ์ ครูฝึกคอยติดตามดูแลตลอดทริป อาหารว่าง หมวกจาก YEC ฉะเชิงเทรา เสื้อจาก ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา
ทั้งนี้ 5 ภาคี เครือข่ายจังหวัดฉะเชิงเทรา ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว และผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม"พายซัพพายคายัด มาบอกฮัก ลำน้ำบางปะกง ครั้งที่ 2" สัมผัสเสน่ห์ของแม่น้ำบางปะกง และวิถีชีวิตชุมชนฉะเชิงเทราอย่างใกล้ชิด หวังว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนชุมชน ตลอดจนสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ต่อไป