ฝันของหนู"นายกฯชั่วคราว" จับตาการเมือง"ดีลเปลี่ยนขั้ว"
สถานการณ์การเมืองไทยกำลังอยู่ในจุดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เมื่อข้อเสนอเรื่อง "นายกรัฐมนตรีชั่วคราว" ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหนทางคลี่คลายวิกฤตการเมืองปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ "พรรคประชาชน" ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก แสดงท่าทีสนับสนุนภายใต้เงื่อนไขที่น่าสนใจ ขณะที่กระแสการจับคู่ทางการเมืองใหม่ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่า "ดีล" ที่อาจเกิดขึ้นจะยั่งยืนเพียงใด และจะนำพาประเทศไทยไปในทิศทางใดกันแน่
"นายกฯ ชั่วคราว" ทางออกที่มาพร้อมเงื่อนไขจาก "พรรคประชาชน"
แนวคิดเรื่องการมี "นายกรัฐมนตรีชั่วคราว" สร้างความฮือฮาในแวดวงการเมือง โดยเฉพาะเมื่อข้อเสนอนี้มาจากฝ่ายค้านที่ไม่ได้มีเสียงข้างมากในสภา การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในทางออกเพื่อคลี่คลายภาวะทางตันทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น เงื่อนไขสำคัญจากพรรคประชาชน แสดงท่าทีสนับสนุนแนวคิดนายกรัฐมนตรีชั่วคราวในสภาอย่างน่าประหลาดใจ มีข้อเรียกร้องที่ชัดเจน กล่าวคือ
- ต้องมีการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
- ต้องมีการจัดให้มีการลงประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่
- พรรคจะลงคะแนนสนับสนุน แต่จะยังคงทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน และจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล
- เรียกร้องให้มีการยุบสภาภายในสิ้นปี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่
ให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องเผชิญกับทางตัน ที่อาจนำไปสู่การแก้ปัญหาที่อยู่นอกระบอบประชาธิปไตย เช่น การรัฐประหาร
แคนดิเดตที่ถูกจับตาและโอกาสของ "อนุทิน"
ข้อเสนอ "นายกฯ ชั่วคราว" ได้เพิ่มโอกาสให้กับแคนดิเดตบางราย และจุดประกายการคาดการณ์ถึงพันธมิตรทางการเมืองใหม่ๆ
"นายกฯ หนู" (อนุทิน ชาญวีรกูล): โอกาสของนายอนุทินได้รับการกล่าวถึงว่าเพิ่มสูงขึ้น พรรคภูมิใจไทยเองก็พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งในฐานะพรรคอนุรักษ์นิยมในช่วงที่ผ่านมา
พันธมิตร "ส้ม-น้ำเงิน": มีการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ในการจับมือกันระหว่างพรรค "สีส้ม" (พรรคประชาชน) และพรรค "สีน้ำเงิน" (ภูมิใจไทย) ซึ่งถือเป็นการจับคู่ที่น่าสนใจ เนื่องจากมีความแตกต่างทางอุดมการณ์
แคนดิเดตอื่น: ชื่อของ "ลุงป้อม" (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และนายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งความเป็นไปได้ในการเป็นนายกรัฐมนตรี
ความท้าทายและความกังวลต่อ "ดีล" ที่อาจเกิดขึ้น
แม้จะมีข้อเสนอออกมา แต่ก็ยังมีความท้าทายและความกังขาจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับ "ดีล" ที่อาจเกิดขึ้น:
ความน่าเชื่อถือ: มีข้อสงสัยว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีชั่วคราวขึ้นสู่อำนาจแล้ว จะรักษาสัญญาในการยุบสภาตามข้อตกลงหรือไม่ แม้พรรคประชาชนจะอ้างว่าจะใช้พลังในสภาเพื่อตรวจสอบก็ตาม
เสียงจากฐานผู้สนับสนุน: ประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคประชาชนอาจไม่เห็นด้วยกับการจับมือกับพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากมีความแตกต่างทางอุดมการณ์อย่างชัดเจน
แรงจูงใจและกลยุทธ์เบื้องหลัง: การเคลื่อนไหวของพรรคประชาชนถูกตั้งคำถาม เนื่องจากหากมีการยุบสภาทันที พรรคจะอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งกว่า บางคนจึงสงสัยว่ามีเหตุผลเบื้องหลังกลยุทธ์นี้หรือไม่ คล้ายกับการตัดสินใจ "ข้ามขั้ว" ที่เป็นที่ถกเถียงของพรรคเพื่อไทยในปี 2566
พรรคร่วมรัฐบาลไม่ต้องการเลือกตั้งเร็ว: พรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบันไม่เต็มใจที่จะเผชิญกับการเลือกตั้งก่อนกำหนด เนื่องจากเพิ่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้การตัดสินใจใดๆ ยิ่งซับซ้อน
บทเรียนจากอดีตและอนาคตทางการเมือง
การตัดสินใจทางการเมืองไม่ควรถูกขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ส่วนตนที่แลกมาด้วยอุดมการณ์ของพรรค ยกตัวอย่างผลลัพธ์เชิงลบจากการกระทำของพรรคเพื่อไทยในปี 2566 เป็นบทเรียน
การเมืองไทยในขณะนี้ยังคงเต็มไปด้วยความผันผวน และยังคงต้องจับตาดูว่า "ดีลเปลี่ยนขั้ว" ครั้งนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และจะนำพาประเทศไทยไปในทิศทางใดต่อไป ท่ามกลางความท้าทายมากมายที่รัฐบาลปัจจุบันต้องเผชิญ
ที่มาประกอบรายงานข่าว เนชั่นอินไซต์