‘ประภัตร’ เดิมพันเก้าอี้เลขาฯพรรคชาติไทยพัฒนา คุมทีมนครปฐมให้อยู่กับพรรค

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ จ.สุพรรณบุรี นายประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวตอนหนึ่งระหว่างให้พรและให้คำแนะนำกับรัฐมนตรีใหม่ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะสส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายอนุชา สะสมทรัพย์ รมช.สาธารณสุข สส.นครปฐมและรองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อม สส.และ สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ได้มาเยี่ยมเยือนและขอบคุณที่เปิดโอกาสในครั้งนี้

โดยนายประภัตร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายอนุชาที่ได้ดำรงตำแหน่งรมช.สาธารณสุข ตนเคารพในการตัดสินใจของหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาที่บอกว่า จะสยายปีกโดยให้นายอนุชา มาช่วยดูแล ตนมีแต่ความจริงใจเป็นสส.มา 50 ปี ชีวิตมีแต่ประชาชน สุพรรณบุรีมีแต่ชาวนา ดังนั้นต้องทำราคาข้าวขึ้นให้ได้ รวมถึงอ้อย มันสำปะหลัง ปุ๋ย และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้นัดหารือกับรมว.พาณิชย์ เพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่มาได้เพราะชาวนา ทิ้งไม่ได้ต้องทำให้ชาวนามีกิน

“ผมได้พูดกับหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ในวันที่ได้เข้าประชุมร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ท่านนายก ฯ ผมขอเรื่อง 1 เรื่องที่จะทำให้รัฐบาลพลิกฟื้นกลับคืนมาได้ คือ เรื่องปากท้อง ต้องทำให้ประชนมีกินมีใช้ โดยนำนโยบายที่จะนำกลับเข้ามาให้ประชาชนมีกินมีใช้ได้ ขอเป็นเรื่องราคาข้าวที่ตอนนี้ตกต่ำ ขอขึ้นให้ได้หมื่นห้า แต่ถ้าไม่ได้ขอให้ได้ 8 พันก็ยังดี เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ได้เพราะชาวนา เราโตมาจากชาวนา เราทิ้งชาวนาไม่ได้ ฉะนั้นจึงต้องทำให้ชาวนามีกินมีใช้ ”นายประภัตร กล่าว

นายประภัตร กล่าวอีกว่า ตนได้บอกกับหัวหน้าพรรคว่า การเมืองไม่มีทางตัน มันแก้กันได้ แล้วแต่จะลงผลประโยชน์ของใครของมัน การเมืองนั้นมันไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ที่เห็นวุ่นวายอยู่เดี๋ยวเขาก็ดีกัน 50 ปี เห็นอย่างนี้มาตลอด เราอย่าไปซ้ำเติมรัฐบาลให้เขาแก้ปัญหาให้ได้ สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี หนักกว่านี้ ขอบคุณหัวหน้าพรรคที่มาแสดงความมีน้ำใจ และวันนี้เราได้เห็นแล้วว่า จ.นครปฐม ยังอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา ดังนั้นตนจึง อยากเปิดทางให้พรรคยิ่งใหญ่ให้สืบต่อไป อยากให้พรรคแข็งแรง ตนจะเสียสละลาออกจากเลขาฯพรรคดีไหม เพื่อให้พรรคชาติไทยเติบโต ไม่เช่นนั้นใคร ๆ ก็จะไม่มั่นใจว่านครปฐมจะไปจากพรรคชาติไทยหรือไม่ ตนก็ยังอยู่ช่วยเต็มที่ไม่ได้ไปไหน เพราะสร้างมากับมือพร้อมกับนายบรรหาร

ด้านนายอนุชา กล่าวว่า สัจจะ กตัญญู คือพรรคชาติไทยพัฒนา คือสิ่งที่ทุกคนในพรรคยึดถือและอยู่ได้ วันนี้ตระกูลสะสมทรัพย์ได้เป็นรมต.ครบ 4 พี่น้อง นายประภัตรมีบุญคุณกับตนที่เสียสละให้ตนมีวันนี้ ตราบใดที่ยังอยู่บนถนนการเมืองตนจะอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา และทุกคนในนครปฐมก็จะอยู่ด้วย

“หากพี่ทำเช่นนั้น ผมเสียใจ ดังนั้นขอว่าพี่ประภัตรจะต้องอยู่เป็นเลขาพรรค เพราะถ้าวันนี้พี่ไปผมก็รู้สึกว่าพี่เกลียดผม เกลียดพรรค เกลียดหัวหน้าพรรค เกลียดนายบรรหาร และ ที่นครปฐมผมจะพยายามขยับขยายเพิ่มให้ได้ ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด“ นายอนุชา กล่าว

ด้านนายวราวุธ กล่าวว่า นายประภัตร เคียงบาทเคียงไหลมากับนายบรรหาร ร่วมสร้างพรรคชาติไทยขึ้นมาจนถึงวันนี้จนกลายเป็นชาติไทยพัฒนา หากพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีคนชื่อประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรค มันก็จะไม่ใช่พรรคชาติไทยพัฒนา เราต้องการหางเสือที่พาเรือลำนี้ให้เดินไปข้างหน้า มรสุมข้างหน้ายังมีอีกมาก ถ้าเรามีเสาเรือที่เข้มแข็งเต็มไปด้วยประสบการณ์ก็จะทำให้พรรคเราไม่ว่าคลื่นใหญ่ขนาดไหนมรสุมจะมากเท่าใด เราก็จะพาเรือลำนี้เดินไปข้างหน้าได้ ดังนั้นนายประภัตรต้องเป็นเลขาพรรคของเรา