มิ.ย.เดือนแห่งความหลากหลายความยั่งยืน เหลืออีกแค่ 5 ปีครึ่ง สู่เป้าหมาย SDG
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่าผู้คนตื่นตัวเรื่องความยั่งยืนในหลากหลายมิติ เริ่มจากการเปิดต้นเดือนด้วย Pride Month รณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียม และเคารพความหลากหลายทางเพศ ตามมาติด ๆ ด้วย EU Green Week ที่เหล่านัก CSR และผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนมีนัดคุยกันที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เร่งเรื่องเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน และกำหนดความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญเร่งด่วนในการแข่งขันธุรกิจ ต่อมาใน วันที่ 5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก World Environment Day ที่ปีนี้จะช่วยกันรณรงค์ลดมลพิษที่เกิดจากพลาสติก ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เพราะพลาสติกถือเป็นตัวการร้ายในการทำลายสิ่งแวดล้อมโลก ทั้งบนดิน ใต้ดิน ในน้ำ คู คลอง ไปจนถึงทะเล และมหาสมุทร กระทบกระเทือนเหล่าสัตว์บก สัตว์น้ำ รวมถึงเป็นตัวการของโรคร้ายอุบัติใหม่ต่าง ๆ ในมนุษย์ต่อด้วย การประชุมนานาชาติที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลและมหาสมุทร
ที่รวบรวมนักอนุรักษ์จากทั่วโลก UN Ocean Conference ที่จัดขึ้นที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ตามมาด้วย การประชุมใหญ่ด้านความยั่งยืนของโลก Sustainability World Summit ที่เหล่า CSO นักธุรกิจ นักลงทุน มาจับเข่าคุยกันที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ว่า ESG จะไปทางไหนในวิกฤติความขัดแย้ง และกำแพงภาษีโลก
ช่วงนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน และเหล่า CSO Chief Sustainable Officer ในองค์กรชั้นนำ ต้องรีบหาพันธมิตร ต้องเดินสายกันวุ่นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อหาความร่วมมือ หานวัตกรรม และหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเร่งให้งานความยั่งยืนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเราเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว นับถอยหลัง 5 ปีครึ่งท่ามกลางวิกฤตินานาชนิดรวมถึงวิกฤติสงคราม ที่กำลังรุมกันขัดขวางเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG.