ข้อแนะนำการออกกำลังกายฉบับ “ผู้ป่วยโรคหัวใจ” ช่วยเสริมสุขภาพ
การดำรงชีวิตประจำวันของคนไทยในปัจจุบันมีความเคร่งเครียดในเรื่องเศรษฐกิจกันมากขึ้น ความเป็นอยู่ที่ต้องเร่งรีบ พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป โดยรับประทานผักกันน้อยลง และหันมาทานอาหารจานด่วนกันมากขึ้น ทำให้สถิติการเสียชีวิตจากการเกิดโรคหัวใจในประเทศไทยโดยเฉพาะการเสียชีวิตจากเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา ตามสถิติของกรมควบคุมโรค 2566 อัตราการตายของคนไทยที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดตีบเป็นอันดับหนึ่ง
10 สิ่งต้องทำหากรู้ว่าป่วยมะเร็งนรีเวช! ลดอัตราการเสียชีวิต
โดยเสียชีวิตชั่วโมงละ 8 คน ซึ่งเป็นสถิติที่สูงมาก ผู้ชายมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้หญิง โดยอาการที่ส่อให้รู้ว่ากำลังถูกโรคหัวใจคุกคามคือ อาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย โดยเฉพาะช่วงออกกำลังกาย หากสังเกตพบอาการดังกล่าวควรรีบมาพบแพทย์เฉพาะทางโดยด่วนเพื่อรับการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้อง
การออกกำลังกายเพื่อรับมือโรคหัวใจ
หลายคนอาจคิดว่าผู้ป่วยโรคหัวใจห้ามออกกำลังกาย ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการออกกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยในการบริหารหัวใจ แต่ทั้งนี้การออกกำลังกายควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยแพทย์จะพิจารณาเป็นรายบุคคลขึ้นอยู่กับสภาพโรคหัวใจที่แตกต่างกัน
ในความดูแลของแพทย์ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกายควร แพทย์จะประเมินสภาพของร่างกาย โรคแทรกซ้อน การเฝ้าติดตามการเต้นของหัวใจ การให้ผู้ป่วยได้เรียนรู้อาการ สัญญาณเตือนภัย การกำหนดความแรงของการออกกำลังกาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูโรคหัวใจจะทำการทดสอบทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย เพื่อหาความเหมาะสมให้
ข้อแนะนำเบื้องต้นในการออกกำลังกายดูแลสุขภาพหัวใจ
- เลือกประเภทของการออกกำลังกายที่เหมาะสม คือ การออกกำลังกายแบบแอโรบิค เช่น การเดิน การวิ่ง การว่ายน้ำ การขี่จักรยานอยู่กับที่
- งดออกกำลังกายถ้ามีอาการไข้ ท้องเสีย พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ระยะเวลาในการออกกำลังกายประมาณ 20-30 นาทีต่อครั้ง และควรปฏิบัติต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3 – 5 วัน เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน
- ไม่ออกกำลังกายหลังอิ่มอาหารทันที ควรรออย่างน้อย 1 ชม. ครึ่ง– 2 ชั่วโมง
- ควรออกกำลังกายในสถานที่ที่ไม่แออัด อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป
- อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อชดเชยการเสียน้ำทั้งก่อน ระหว่าง และหลังกายออกกำลังกาย
- อย่ากลั้นหายใจขณะออกกำลังกาย ให้หายใจปกติ การหายใจไม่ควรติดขัด และควรจะพูดคุยได้ไม่เหนื่อยหอบ
- ต้องอุ่นเครื่อง (Warm-Up) ก่อนเริ่มออกกำลังกายและเบาเครื่อง (Cool – Down) ก่อนหยุดการออกกำลังกายเสมอ
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้และรองเท้าที่สวมใส่สบาย
- ผู้ป่วยโรคหัวใจควรพกยาพ่นหรือยาอมใต้ลิ้นขยายหลอดเลือดหัวใจติดตัว และกรณีที่เจ็บหน้าอกขณะออกกำลังกายควรหยุดและปรึกษาแพทย์
- จะเป็นการดีหากมีเพื่อนร่วมออกกำลังกายด้วย
การออกกำลังกายในผู้ป่วยโรคหัวใจจะส่งผลดีต่อสมรรถภาพร่างกายของผู้ป่วย เนื่องจากร่างกายมีการปรับตัวในการนำออกซิเจนไปใช้ได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีสมรรถภาพร่างกายที่ดีช่วยลดอาการต่าง ๆ ของโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยในการป้องกันและควบคุมเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความผิดปกติของระดับไขมันในเลือด เพิ่มความสามารถการละลายลิ่มเลือด และปรับปรุงการทำงานของเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด ทำให้สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น มีสภาพจิตใจและคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา