โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

EGCO Group ในวันที่โลกผันผวน

Thairath Money

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสร่วมคณะไปเยือนประเทศไต้หวันกับ “จิราพร ศิริคำ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group เพื่อดูกิจการที่บริษัทไปลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yunlin

ในโอกาสที่ประสบความสำเร็จในการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 80 ต้น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้าเพื่อเดินเครื่องเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ รวมกำลังผลิต 640 เมกะวัตต์ เมื่อเดือนมิ.ย.

ทำให้ปีนี้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ได้เต็มปี รวมทั้งมีส่วนช่วยสนับสนุนเป้าหมายของบริษัทที่มุ่งเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ของกำลังผลิตทั้งหมด ภายในปี 2573

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าไปลงทุนในไต้หวันปลายปี 2562 ด้วยการเข้าถือหุ้นในบริษัท ยุนเหนิง วินด์ พาวเวอร์ จำกัด ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yunlin เพราะมองว่าไต้หวันมีนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาดที่ชัดเจน

การตั้งเป้าลดการพึ่งพานิวเคลียร์และถ่านหิน ผลักดันให้พลังงานสะอาดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนพลังงานลมนอกชายฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณช่องแคบไต้หวันเป็นตำแหน่งที่มีลมแรงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งรัฐบาลไต้หวันได้ส่งเสริมการลงทุนแก่นักลงทุนต่างชาติ โดยจัดสรรงบประมาณจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและเศรษฐกิจสีเขียว

สำหรับ Yunlin ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของมณฑลหยุนหลินในไต้หวันเป็นระยะทาง 8-17 กิโลเมตร ที่ระดับความลึกของน้ำทะเลในช่วง 7-35 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 82 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยกังหันลม 80 ต้น กำลังผลิตต้นละ 8 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิต 640 เมกะวัตต์ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งเข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้าของไต้หวันผ่านสถานีไฟฟ้าบนฝั่ง 2 แห่ง บริเวณตำบลไถซีและซื่อหู ในมณฑลหยุนหลิน เพื่อขายให้กับ Taiwan Power Company (TPC) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี

ที่สำคัญ Yunlin เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่เป็นลำดับต้น ๆ ของไต้หวัน มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้า 2,400 ล้านหน่วยต่อปี ซึ่งสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับภาคครัวเรือนไต้หวันมากกว่า 600,000 หลังคาเรือน คิดเป็น 90% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนทั้งหมดของมณฑลหยุนหลิน และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1.2 ล้านตันต่อปี

ตลอดเวลาที่ผ่านมาโรงไฟฟ้า Yunlin เป็นผู้นำในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งทำงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนในท้องถิ่น สมาคมประมงและมหาวิทยาลัยท้องถิ่นเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

จิราพร กล่าวย้ำว่า Yunlin เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งแห่งแรกของบริษัทที่ดำเนินการในไต้หวัน นอกจากช่วยสร้างพลังงานสีเขียวให้กับไต้หวันแล้ว ยังช่วยเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนตามสัดส่วนการถือหุ้นให้บริษัทประมาณ 170 เมกะวัตต์ และผลการดำเนินงาน คาดว่า Yunlin จะสร้างกระแสเงินสดให้บริษัทเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินโครงการเต็มรูปแบบ

โดย 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค. – พ.ค.) Yunlin มีอัตราการผลิตไฟฟ้า (Capacity Factor) ประมาณ 35% ซึ่ง Capacity Factor เฉลี่ยในระดับที่สูงนี้ ยืนยันศักยภาพของพลังงานลมในพื้นที่ช่องแคบไต้หวันและการสร้างรายได้ในอนาคต

ซีอีโอหญิงเหล็ก ยังเล่าให้ฟังอีกว่า บริษัทได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพ เพิ่มโอกาสการลงทุนธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้กำหนดแผนธุรกิจ 3 ปี (ปี 2568-2570) โดยจะใช้เงินลงทุนปีละ 30,000 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,653 เมกะวัตต์ โดยเป็นกิจการที่ตั้งอยู่ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย, ลาว, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน และสหรัฐฯ ทั้งที่เป็นโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,450 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 22% ของกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งหมด ที่มาจากชีวมวลพลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง เซลล์เชื้อเพลิงและระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่

“ที่สำคัญต้องยอมรับว่า ขณะนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังคงผันผวนจากผลกระทบสงครามตะวันออกกลาง สงครามการค้า โดยเฉพาะข้อสรุปเรื่องของภาษีทรัมป์ แต่บริษัทจะใช้เม็ดเงินลงทุนตลอดทั้งปีนี้ที่ 30,000 ล้านบาท ตามที่ได้ประกาศไว้เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 1,000 เมกะวัตต์ โดยบริษัทจะลงทุนในประเทศที่น่าสนใจและเหมาะสมที่จะลงทุน นอกเหนือจาก 7 ประเทศเดิมในปัจจุบัน ซึ่งปีนี้จะขยายการลงทุนเพิ่มที่ไต้หวัน สหรัฐฯ และกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง”

โดยบริษัทกำลังเจรจาปิดดีลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าอีก 4-5 โครงการใน 3 ประเทศนี้ แม้จะมีสงครามในตะวันออกกลาง แต่บริษัทมองว่าสถานการณ์ขณะนี้อาจเป็นวิกฤติการลงทุน แต่อีกมุมหนึ่งก็คือโอกาสและความท้าทายในการลงทุน เพราะเป็นประเทศมีศักยภาพและตลาดโลกยังมีความต้องการพลังงานอย่างต่อเนื่อง

“ก่อนการตัดสินใจใดๆ บริษัทได้ติดตามสถานการณ์และความเสี่ยงในทุกๆ เดือน ที่สำคัญจะเป็นการลงทุนแบบระมัดระวังอยู่แล้ว"

นอกจากนี้ สหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่บริษัทพิจารณาว่ามีบริบทเหมาะสมกับการขยายการลงทุนเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน เมื่อปี 2564 ทำให้ในปัจจุบันมีกำไรมาจากการลงทุนในสหรัฐฯ 16-17% ของกำไรโดยรวม แม้ว่าสหรัฐฯ ในช่วงนี้ไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ส่งไปสหรัฐฯ ในอัตราที่สูง และมีผลกระทบต่อประเทศไทย แต่เราเป็นเอกชนที่เข้าไปลงทุน จึงถือเป็นโอกาสที่ดีและยังทำให้ประเทศของเราได้รับการพิจารณาผ่อนปรนอัตราภาษีจากสหรัฐฯ และได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะสหรัฐฯ เป็นตลาดน่าสนใจและมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

จิราพร กล่าวปิดท้ายอีกว่า เป้าหมายการลงทุน บริษัทได้คำนึงแผนการลงทุนระยะสั้นและระยะยาวตามสถานการณ์ โดยในส่วนของระยะสั้นที่ตอบโจทย์คือการซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A) โดยซื้อกิจการที่มีการลงทุนไว้แล้ว โดยเลือกโครงการที่เป็นประโยชน์และมีผลตอบแทนค่อนข้างสูง

ขณะเดียวกันแผนในระยะยาวก็ต้องมีการลงทุนที่เป็น Greenfield (การลงทุนใหม่ๆ) ด้วยเช่นกัน ซึ่งการลงทุนบริษัทก็คงเหมือนกับทุกๆ บริษัท คือมีเป้าหมายเรื่องของผลตอบแทนของการลงทุน เพราะการจะลงทุนโครงการใดๆ ได้ต้องมีผลตอบแทนที่คุ้มค่า น่าสนใจ เพื่อส่งผ่านผลตอบแทนไปยังผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทมีนโยบายว่าผลตอบแทนที่อยากได้จากการลงทุนอยู่ระหว่าง 6-9%

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : EGCO Group ในวันที่โลกผันผวน

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Money

กรุงศรี Q2 โกยกำไร 8,295 ล้าน โต 1% ตั้งสำรองลดลง-คุมต้นทุนได้ แม้รายได้ดอกเบี้ยหด

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ChatGPT Agent เจ๋งกว่าเดิมยังไง ? ผู้ช่วย AI ใหม่ ไม่ได้แค่ตอบคำถาม แต่ทำงานแทนได้เลย

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

CP-Uoriki ร้านซูชิแห่งแรกของ 7-Eleven นั่งทานในร้าน-ทำสด-เสิร์ฟแบบพรีเมียม

SMART SME

“รมว.อรรถกร” แจง กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าลดต้นทุนอาหารสัตว์ เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นแทนการนำเข้า พร้อมยืนกราน จุดยืนปกป้องเกษตรกรไทย

สวพ.FM91

Broker ranking 18 Jul 2025

Manager Online

36% ของ Gen Z ใช้คริปโตทุกวัน - Gen X จัดหนักซื้อลงทุนอสังหาฯ

Manager Online

ร้านสะดวกซื้อ Lawson เปลี่ยนลานจอดรถเป็นที่พักค้างคืน สร้างรายได้จากพื้นที่ว่าง

SMART SME

“พิชัย” ปรามนักลงทุน อย่าเพิ่งลุย! บิทคอยน์ใกล้หมดแรง-หุ้นไทยยังไม่น่าเสี่ยง แนะถือเงินสด

Manager Online

ก.ล.ต. รื้อเกณฑ์ทดสอบนักลงทุน เตรียมยกเครื่องกฎ “รู้จริงก่อนจองโทเคน” ลดภาระ-ล้อมคอกก่อนเกิดปัญหา

Manager Online

อิเกีย ตอกย้ำความเป็น Pet-friendly ชวนคนรักสัตว์เลี้ยงเช็คอิน งาน “เติมเต็มบ้านด้วยความรักและหัวใจคนฟู” ณ เอ็ม ยาร์ด 18-28 ก.ค. นี้

Positioningmag

ข่าวและบทความยอดนิยม

EGCO กำไรไตรมาส 3 พุ่ง ตั้งเป้าโตยั่งยืน-ลุยลงทุน 3 ปี 9 หมื่นล้าน

Thairath Money

เปิดเคล็ดลับ 5 แม่ทัพหญิงแกร่ง นำพาธุรกิจรุดหน้าสู่ความยั่งยืน

Thairath Money

EGCO Group ร่วมลดโลกเดือด

Thairath Money
ดูเพิ่ม
Loading...