“จอนนี่ มือปราบ” ร้อง ป.ป.ช.เอาผิดอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.09 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทนนทบุรี 8 ก.ค. – “จอนนี่ มือปราบ” ร้อง ป.ป.ช. เอาผิดอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ กับพวก ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กล่าวหาบุกรุกที่ดินนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย จ.อุบลราชธานี ชี้เลือกปฏิบัติ-ไร้คำสั่งทางปกครอง ซัดถูกกลั่นแกล้งเพราะเคยวิจารณ์นายกฯ
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อ.เมือง จ.นนทบุรี จอนนี่ มือปราบ พร้อมด้วยทนายเกิดผล แก้วเกิด เข้ายื่นหนังสือแจ้งความกลับอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และเจ้าหน้าที่ รวม 3 ราย ในความผิดตามมาตรา 157-หมิ่นประมาท หลังอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ แจ้งความดำเนินคดี จอนนี่ มือปราบ กรณีสร้างรีสอร์ตรุกล้ำเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี อ้างพยายามส่งหนังสือแจ้งให้ยุติการทำรีสอร์ตแล้วแต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ หนำซ้ำยังถูกข่มขู่
จอนนี่ กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือร้อง ป.ป.ช. แจ้งความดำเนินคดีบุคคล 3 ราย คือ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ และเจ้าหน้าที่ ในความผิด ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหมิ่นประมาท กรณีตรวจสอบรีสอร์ตของตนเพียงที่เดียว และอ้างว่าไม่ได้รับความร่วมมือ หนำซ้ำยังถูกข่มขู่ ทั้งที่ในบริเวณใกล้เคียงมีสถานประกอบการอื่นๆ โดยอ้างกฎหมายที่จัดตั้งขึ้นภายหลังที่ประชาชนเข้ามาอาศัยและทำมาหากินมาเป็นเวลานาน ทั้งนี้ ที่ดินของตนเข้าไปซื้อต่อจากชาวบ้านเป็นทอดๆ ซึ่งตนเป็นลำดับที่ 3 แล้ว มีเอกสารสัญญาซื้อขายถูกต้อง มีลายเซ็นของผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ และดำเนินการก่อสร้างรีสอร์ตจนเปิดให้บริการมานานหลายปี แต่กลับมาถูกตรวจสอบเอาตอนนี้
ส่วนตัวมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะมาตรวจสอบตนหลังมีกระแสดรามาของนายกรัฐมนตรีที่มีการต่อสายโทรคุยสมเด็จฮุน เซน และตนออกมาโพสคลิปวิจารณ์การทำงานของนายกฯ ยืนยันไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อนายกฯ เพียงแต่วิพากษ์วิจารณ์ในฐานะประชาชนคนไทยและเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายกฯ แต่ประเด็นดังกล่าวทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากตำรวจ สุดท้ายก็ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินและรายได้ จนวันนี้ถูกตรวจสอบเรื่องการก่อสร้างรีสอร์ตบุกรุกที่นิคมฯ จึงต้องออกมาต่อสู้ในฐานะประชาชนคนธรรมดา ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ร้องขอความเป็นธรรม
ด้านทนายเกิดผล เปิดเผยว่า เรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 เรื่องคือ 1.การซื้อที่ของนิคมฯ ถ้ามีการซื้อ-ขายจากสมาชิกที่มีใบ นค.1 หรือ นค.3 ถือว่าผิด แต่กรณีครอบครองมาก่อนมีกฎหมายประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2511 และเป็นเขตนิคมฯ ในปี พ.ศ. 2515 ซึ่งมีชาวบ้านอยู่มาก่อน ดังนั้น กรณีนี้คือการซื้อที่ดินที่ไม่มีเอกสาร เป็นสิทธิของผู้ครอบครองที่อยู่มาก่อน 2.ถ้าหน่วยงานรัฐจะดำเนินคดีกับจอนนี่ ต้องมีคำสั่งให้รื้อถอนก่อน และจอนนี่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่ง หากอุทธรณ์ไปแล้วก็มีสิทธิเพิกถอนคำสั่งศาลปกครอง แต่กระบวนการนี้ไม่มี จะข้ามมาดำเนินคดีได้อย่างไร ถือเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ หากไม่มีถือเป็นการกระทำที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือเลือกปฏิบัติ ซึ่งจอนนี่บอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยได้รับหนังสือจากหน่วยงานใด นอกจากนี้มีคำสั่งรื้อถอนกับผู้ประกอบการคนอื่นหรือไม่ ถ้าไม่มีก็เท่ากับเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย แหล่งข่าวรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า การแจ้งความดำเนินคดี ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการกับจอนนี่เพียงรายเดียว ยังมีพยาบาลและชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง จึงไม่ได้เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนรายละเอียดของการดำเนินการจะเป็นไปตามขั้นตอนของการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ในกรณีดังกล่าวได้มีการแจ้งทางกรมให้ทราบตั้งแต่ปี 65 และทางพื้นที่เองยังไม่ได้ติดตาม จนกระทั่งทางกรมได้มีการประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมและมีการนำเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นการกระทำตามหน้าที่ที่พึงกระทำ และไม่ได้มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวถูกส่งให้ทางกรมตั้งแต่ปี 65 แล้ว
ขณะที่ชาวบ้านยอมรับว่าจุดที่เป็นรีสอร์ตของจอนนี่ มือปราบ ในอดีตเคยเป็นป่ามาก่อน แต่พื้นที่ถูกแปรสภาพ แล้วโดยเจ้าของคนก่อน หลังซื้อก็ไม่พบว่ามีการบุกรุกเพิ่มเติม โดยก่อนซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้าน จอนนี่มาปรึกษาผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน ให้ชาวบ้านมีรายได้และจ้างแรงงานท้องถิ่น โดยไม่ต้องไปทำมาหากินต่างถิ่น ซึ่งหลานตนก็ทำงานที่รีสอร์ตของจอนนี่ ก็รู้สึกตกใจที่จอนนี่ถูกแจ้งความดำเนินคดี เพราะเข้าใจว่ามาถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ได้บุกรุกพื้นที่เพิ่มจากเจ้าของรายเดิม ชาวบ้านคงไม่ยอม เพราะถ้าผิด ก็ต้องย้ายกันทั้งหมด
ด้าน ผบก.ปทส. ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากซับซ้อน เพียงแต่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนมีชื่อเสียง จุดดังกล่าวอยู่ในเขตที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย กันเป็นพื้นที่ป่า 20% ซึ่งไม่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ได้ นับจากนี้จะมีตำรวจ ปทส.ชุดล่วงหน้า ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่ามีการบุกรุกเนื้อที่เท่าไร มีสิ่งปลูกสร้างอะไรบ้าง มีชาวบ้านกี่ราย ในส่วนของชาวบ้าน ฝ่ายปกครองต้องไปพูดคุยทำความเข้าใจ ส่วนตนและ ปทส.ชุดใหญ่ มีกำหนดการจะลงพื้นที่ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย