SENA รุก “ปล่อยเช่า-เช่าออม” ดันมาร์จิ้นโต
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น-SENA ปรับเกมรุก สู้ศึกตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอ มุ่งโฟกัสปล่อยเช่า-เช่าออม หวังรักษาการเติบโตของกำไร ขณะที่ครึ่งปีหลังนี้เล็งเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6.7 พันล้านบาท พร้อมชูสต็อกในมือแน่น 7 พันล้านบาท และ Backlog 6 พันล้านบาท คาดรับรู้ครึ่งหลัง 2-3 พันล้านบาท
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผย ว่า บริษัทฯ ยอมรับรายได้ปี 2568 น่าจะปรับตัวลดลง จากเป้าหมายเดิมที่ระดับ 10,000 ล้านบาท ตามการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา SENA ได้มีการปรับกลยุทธ์การขาย ไปในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการปล่อยเช่า (ผ่านบริการของ RentNex) และการเช่าออม (ผ่านบริการ LivNex) ทำให้สามารถสร้างรายได้ประจำที่ประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มมาร์จิ้นให้กับบริษัท
ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯ จะยังสามารถรักษาการเติบโตของกำไรไว้ จากการเปลี่ยนสินทรัพย์กลับมาเป็นผลตอบแทน (turn assets return) และบริหารจัดการต้นทุน ด้วยการลดต้นทุนต่างๆ ภายในองค์กร สะท้อนจากผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของบริษัท ที่ถือว่ามีกำไรเติบโตสูงสุดในอุตสาหกรรม หรือมีมาร์จิ้นเติบโตราว 20% ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/2568 คาดกำไรยังดีต่อเนื่อง จากการปรับกลยุทธ์การขายดังกล่าว
“เราพยายามหาจุด Pain point เพื่อที่จะแก้ปัญหา ในภาวะที่กำลังซื้อชะลอลง และเราก็ไม่ได้คิดว่าการระบายสต็อกออก หรือการเช่าคอนโดรูปแบบใหม่จะเป็นทางออกระยะสั้น แต่เราคิดจะทำจริงจัง และจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งของเรา เนื่องจากเราเล็งเห็นว่าปัญหาหนี้ครัวเรือน ก็คงไม่มีใครแก้ไขได้ และยังเห็นความต้องการบ้านของคนจำนวนมาก เราเลยแก้ที่ตัวเอง ซึ่งมันก็เป็นโมเดลที่อยู่ในจุดที่พอทำได้ ไม่ได้ยากจนเกินไป ทำให้มีความคิดว่าจะยึดเป็นธุรกิจหลักอีกอันหนึ่ง” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
สำหรับยอดปฎิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) ปัจจุบันปรับตัวลดลงมาเหลือราว 50% จากเดิมอยู่ที่ราว 70% ขึ้นไป หลังการปรับกลยุทธ์การขาย มาเป็นรูปแบบของการปล่อยเช่าคอนโดฯ ทั้ง LivNex เช่าออมบ้าน และ RentNex ที่ไม่ผูกพันกับสัญญาเช่าระยะยาว
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ จำนวน 2,692 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 6,700 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ COZY (โคซี่) จำนวน 4 โครงการ (รามอินทรา-คู้บอน, ศรีนครินทร์ 38, ลาดพร้าว และจอมทอง) เป็นกลุ่มสินค้าระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวอยู่ในทำเลในเมือง และโครงการแนวราบ จำนวน 1 โครงการ (โครงการ SENA Park Grand 2 รามอินทรา)
ล่าสุดบริษัทได้ออกแคมเปญ “เฮ้ย อยู่ก่อน กู้ทีหลัง” ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ SENA มีบริการ และเป็นความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ เพื่อทำให้คนที่อยากมีบ้านรู้สึกผ่อนคลายความกังวลลง โดยวางเป้าหมายยอดขายจากแคมเปญดังกล่าวไว้ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีสินค้าพร้อมโอนทันที (สต๊อก) รวมมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท เป็นสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท และเป็นสินค้าประเภทแนวราบประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังจะมีคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการ lexi Mega Space Bangna จำนวน 807 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป