เชียงรายเดินหน้าสู่เมืองประชุมนานาชาติหลังปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางด้านชาและกาแฟระดับโลก
เชียงรายประสบความสำเร็จจากเป็นเจ้าภาพจัดงาน Global Coffee and Tea Association Forum 2025: Shaping the Future Together ผสานงานประชุม นิทรรศการและการลงพื้นที่ครบจบในงานเดียวดึงผู้ร่วมงานนานาชาติ 46 คนจาก 11 ประเทศ/เขตปกครองเข้าร่วมงาน ออสเตรเลีย กัมพูชา จีน โคลอมเบีย เดนมาร์ก อินโดนีเซีย ฮ่องกง เมียนมา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเวียดนาม จากยอดผู้ร่วมงานทั้งสิ้น 211 คน
นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ และรักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า “เชียงรายได้แสดงศักยภาพของเมืองที่สามารถเป็นเจ้าภาพงานไมซ์ระดับสากลได้อย่างดีเยี่ยม งานนี้คือตัวอย่างของการใช้ไมซ์เป็นเวทีและเครื่องมือส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอย่างชาและกาแฟของจังหวัด ผลักดันให้เชียงรายกลายเป็นศูนย์กลางการผลิต แปรรูป และซื้อขายชาและกาแฟทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงเป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลชาและกาแฟระดับประเทศและนานาชาติในอนาคต พร้อมเร่งเครื่องพิสูจน์ศักยภาพไมซ์ เป้าหมายจุดหมายปลายทางด้านชาและกาแฟระดับโลก
เวทีพัฒนาความรู้ระดับโลก
โดย นายภูริพันธ์ กล่าวว่า งานครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการประชุมและการเสวนาโต๊ะกลมที่โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท โดยมีวิทยากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการด้านชาและกาแฟจากจีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เมียนมา สิงคโปร์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย เวียดนาม และไทย ร่วมนำเสนอและแลกเปลี่ยนประเด็นที่หลากหลาย ทั้งความท้าทายของอุตสาหกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความยั่งยืน การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การผสมและปรุงแต่งรส และแนวโน้มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ พร้อมนำเสนอผลงานวิจัย การแปรรูป และนวัตกรรมการผลิต
ซึ่งมีการจัดนิทรรศการ “Chiang Rai Brewtopia Green Season” ที่อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง โดยมี นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายภูริพันธ์ บุนนาค และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยาภรณ์ เชื่อมชัยตระกูล หัวหน้าสถาบันชาและกาแฟ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นประธานเปิดงาน ภายในนิทรรศการมีผู้ประกอบการชาและกาแฟกว่า 40 ราย นำเสนอผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นทั้งจากชนเผ่าบนดอย ผู้ประกอบการหน้าใหม่ และช่างฝีมือท้องถิ่น ให้กับผู้ร่วมงานทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เลือกซื้อ ลิ้มลอง และพูดคุยโอกาสทางธุรกิจ พร้อมกิจกรรมเวิร์กชอป เสวนาธุรกิจ และการสาธิตผลิตภัณฑ์
ตอกย้ำจุดแข็งด้านการผลิต
อีกทั้ง นายภูริพันธ์ กล่าวต่อว่า เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของการเป็นจุดหมายด้านชาและกาแฟ จึงมีกิจกรรม A Cup to Village ด้วยการพาผู้ร่วมงานชาวต่างประเทศลงพื้นที่ไร่และโรงงานต้นแบบ อาทิ ไร่ชาฉุยฟง อ.แม่จัน ชมการปลูกชาระบบขั้นบันไดแบบออร์แกนิก พร้อมกระบวนการผลิตและชิมชาอู่หลงที่คว้ารางวัล ไร่ชาวังพุดตาล ดอยแม่สลอง เยี่ยมชมเส้นทางการพัฒนาชุมชนด้วยชาอู่หลงและชาดำคุณภาพสูง โดยชาดำคว้ารางวัล Grand Gold Prize ในงาน World Green Tea Contest 2021 กาแฟดอยช้าง อ.แม่สรวย แสดงผลสำเร็จของการปลูกกาแฟอาราบิก้าภายใต้โครงการหลวงแทนการทำไร่เลื่อนลอยในปี 2512 ปัจจุบันมีแบรนด์เป็นที่ยอมรับส่งออกกว่า 10 ประเทศ ได้รับ GI จากสหภาพยุโรป และจบด้วยกิจกรรม Coffee Cupping ให้กับผู้ร่วมงาน ณ ร้าน "Queen of Coffee"
สำหรับการเป็นเจ้าภาพงาน Global Coffee and Tea Association Forum 2025 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเชียงรายในการพัฒนาเมืองเป็นจุดหมายการจัดงานไมซ์ อีกทั้งในปี 2567 เชียงรายติดอันดับเมืองไมซ์ของ ICCA เป็นครั้งแรกจากการจัดงานที่เข้าเกณฑ์ ICCA จำนวน 2 งาน และในปี 2568 ยังเป็นเจ้าภาพประชุม AIPH Spring Meeting 2025 & Green City Conference 2025 ของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเตรียมต้อนรับงาน PATA Destination Marketing Forum ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ นายภูริพันธ์ กล่าวว่า ตามยุทธศาสตร์ของทีเส็บในการกระจายงานไมซ์ไปยังเมืองรองที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งเชียงรายคือหนึ่งในเมืองที่มีมรดกชาและกาแฟเข้มแข็ง เป็นตัวอย่างของความสามารถในการดึงดูดงานระดับนานาชาติ และวางตำแหน่งเมืองบนแผนที่ไมซ์โลกได้อย่างแท้จริง
ดังนั้นงาน Global Coffee and Tea Association Forum 2025 ที่จัดขึ้นช่วงที่ผ่านมาจากความร่วมมือของหลายองค์กร ได้แก่ สถาบันชาและกาแฟ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง บริษัท สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำกัด และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ ถือเป็นการต่อยอดจากการจัดงาน Symposium นานาชาติด้านชาและกาแฟในปี 2566 และ 2567 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมชาและกาแฟในระดับนานาชาติและการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการชาและกาแฟในเชียงราย โดยเฉพาะกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากต่างประเทศที่มาร่วมงาน นับเป็นการนำเสนอพลังทางธุรกิจของอุตสาหกรรมชาและกาแฟของเชียงราย เนื่องจากผู้เข้าร่วมในงานนี้ได้แลกเปลี่ยนความรู้ สร้างเครือข่ายธุรกิจ และพัฒนาศักยภาพ พร้อมทั้งลงพื้นที่เยี่ยมชมไร่ชาและกาแฟ โรงงานแปรรูป และลิ้มรสผลิตภัณฑ์ต้นตำรับ สร้างโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมชาและกาแฟในเชียงรายได้เป็นอย่างดี