เซเลนสกีสะดุ้ง!ลือสหรัฐฯกำลังหารือรัสเซียปิดดีลยูเครน โอเคมอสโกตรึงดินแดนยึดครองแลกยุติสงคราม
สหรัฐฯและรัสเซียกำลังวางเป้าหมายบรรลุข้อตกลงหนึ่งๆสำหรับยุติสงครามในยูเครน โดยข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดทางให้มอสโกคงไว้ซึ่งการควบคุมเหนือดินแดนต่างๆที่ยึดครองได้ระหว่างปฏิบัติการทางทหาร ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันศุกร์(8ส.ค.)
บลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดในประเด็นนี้ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม ระบุว่าพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและรัสเซียกำลังทำงานมุ่งหน้าสู่ข้อตกลงหนึ่งๆในด้านเขตแดน ส่วนหนึ่งของแผนประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งคาดหมายว่าจะมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งบอกว่ารายงานข่าวของบลูมเบิร์กเป็นเพียงการคาดเดา ส่วนโฆษกของวังเครมลินไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ทั้งนี้ยังไม่มีความเห็นมาจากเจ้าหน้าที่ยูเครน แต่ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ออกมาหลังปรากฏรายงานข่าวนี้ ทางประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ไม่ได้พูดถึงมันแต่อย่างใด
"สหรัฐฯมีความมุ่งมั่นบรรลุข้อตกลงหยุดยิงหนึ่ง และเราต้องเข้าร่วมสนับสนุนทุกก้าวย่างที่สร้างสรรค์ สันติภาพที่สง่าผ่าเผย น่าเชื่อถือและยั่งยืน จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามีความพยายามร่วมกัน" เซเลนสกีกล่าวเพียงเท่านี้
ปูติน กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ใน 4 แคว้นของยูเครน ประกอบด้วย ลูฮานสก์, โดเนตสก์, ซาโปริซเซีย, เคียร์ซอน เช่นเดียวกับแหลมไครเมีย ซึ่งพวกเขาผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในปี 2024 แม้ว่ากองกำลังของเขาไม่ได้ยึดครองควบคุมดินแดนใน 4 แคว้นอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้ ยูเครน ส่งสัญญาณถึงความตั้งใจยึดหยุ่นในความพยายามหาทางยุติสงคราม ที่ฉีกเมืองและหมู่บ้านต่างๆเป็นชิ้นๆ และสังหารทหารและพลเรือนไปจำนวนมาก อย่างไรก็ตามการยอมรับการสูญเสียดินแดนราวๆ 1 ใน 5 ของยูเครน จะสร้างความเจ็บปวดและก่อความท้าทายทางการเมืองแก่เซเลนสกีและรัฐบาลของเขา
ไทซัน บาร์เกอร์ อดีตรองผู้แทนพิเศษด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจยูเครนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นว่าข้อเสนอนี้ ตามรายงานของบลูมเบิร์ก คงจะถูกปฏิเสธโดยฝ่ายยูเครนในทันที "สิ่งที่ดีที่สุดที่ยูเครนสามารถทำได้ก็คือยืนกรานอย่างหนักแน่นต่อเสียงคัดค้านของพวกเขา และเงื่อนไขต่างๆของพวกเขาสำหรับการเจรจาหาทางออก ขณะเดียวกันก็แสดงออกถึงความขอบคุณที่มีต่อการสนับสนุนของสหรัฐฯ"
ตามรายงานของบลูมเบิร์ก ภายใต้สมมุติฐานข้อตกลง ทางรัสเซียจะหยุดจู่โจมในเคียร์ซอนและซาโปริซเซีย ตามแนวการสู้รบในปัจจุบัน
นับตั้งแต่กลับสู่ทำเนียบขาวในเดือนมกราคม ทรัมป์ เคลื่อนไหวหล่อหลอมความสัมพันธ์กับรัสเซีย และหาทางยุติสงคราม อย่างไรก็ตามในการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะ ทรัมป์ทั้งพูดชื่นชมและวิพาษ์วิจารณ์ปูตินอย่างรุนแรงกลับไปกลับมาอยู่ตลอด
ในสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกผิดหวังกับปูตินมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อกรณีไม่ยอมหยุดปฏิบัติการทางทหาร ทรัมป์ขู่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรและรีดภาษีรอบใหม่ในวันศุกร์(8ส.ค.) ซึ่งจะเล่นงานทั้งมอสโกและบรรดาผู้ซื้อสินค้าส่งออกของรัสเซีย จนกว่า ปูติน จะยอมยุติสงครามที่ลากยาวมานานกว่า 3 ปีครึ่ง ซึ่งถือเป็นความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตามด้วยคาดหมายว่าการประชุมซัมมิตระหว่างทรัมป์กับปูตินจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เป็นไปได้ว่าจะจัดขึ้นในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามาตรการเหล่านั้นจะมีผลบังคับใช้หรือไม่ หรืออาจถูกเลื่อนออกไป หรือกระทั่งถูกยกเลิก
สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของทรัมป์ ได้พบปะและประชุมร่วมกับ ปูติน ในกรุงมอสโก เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงในวันพุธ(6ส.ค.) ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างให้คำจำกัดความว่าเป็นไปอย่างสร้างสรรค์
นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ แห่งโปแลนด์ พันธมิตรใกล้ชิดของยูเครน บอกก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(8ส.ค.) ว่าการยุติความขัดแย้งใกล้เข้ามาแล้ว ความเห็นซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เขาพูดคุยกับเซเลนสกี "มีสัญญาณบางอย่าง และโดยสัญชาตญาณ บางทีอาจมีการตรึงความขัดแย้ง ผมไม่อยากพูดคำว่ายุติ แต่มันเป็นการตรึงความขัดแย้ง ซึ่งมันใกล้เข้ามามากกว่าที่จะห่างออกไป" เขากล่าว "มีความหวังในเรื่องนี้"
ทัสก์ บอกด้วยว่าเซเลนสกีเองก็มองในแง่บอกด้วยความระมัดระวังอย่างมาก และบอกว่ายูเครนหวังว่าโปแลนด์และบรรดาชาติยุโรปอื่นๆจะมีบทบาทอย่างหนึ่งอย่างใดในแผนการหยุดยิง และท้ายที่สุดก็คือทางออกอย่างสันติ
(ที่มา:รอยเตอร์)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO