รมช.กลาโหมเผยมอบ มทภ.2-ผู้ว่าฯ ประเมินก่อนให้ประชาชนกลับที่พัก พร้อมกดดันกัมพูชา ถอนทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์ ในวง GBC ครั้งถัดไป
วันนี้ (8 สิงหาคม) พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ว่า จากข้อตกลง 13 ข้อ จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 มี 9 ข้อ กลุ่มที่ 2 เมื่อหยุดยิงแล้วจะอย่างไรต่อ อีก 3 ข้อ และกลุ่มที่ 3 ติดตามผลประชุม GBC ที่จะเกิดขึ้นอีก 1 เดือนข้างหน้า
ส่วนที่ประชาชนหลายคนสงสัยว่าไทยเชื่อใจกัมพูชาได้หรือไม่ พล.อ. ณัฐพลกล่าวว่า ประเด็นแรก ประเทศไทยต้องแสดงถึงความมีวุฒิภาวะ ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายระหว่างประเทศ และตามความเห็นร่วมกันของนานาชาติ และจะใช้เรื่องนี้เป็นกรอบประเมิน รวมถึงควบคุมทางฝ่ายกัมพูชาว่าทำอะไรที่ขัดต่อกฎหมาย หรือขัดอนุสัญญา หรือขัดต่อความเห็นของนานาชาติหรือไม่
ชั้นที่ 2 คือ จะประเมินความจริงใจ กัมพูชาเป็น 3 ขั้น ขั้นแรกคือ การประชุมฝ่ายเลขานุการ ซึ่งก็ให้ความร่วมมือ แต่มีบางข้อเสนอที่ไม่ยอมรับ คือ เรื่องของทุ่นระเบิดและสแกมเมอร์ แต่ก็ถือว่าผ่าน เมื่อวาน (7 สิงหาคม) การประชุมระดับผู้บริหาร เป็นการประเมินขั้นที่ 2 ทางฝ่ายกัมพูชาก็ตอบรับ แต่มีบางประเด็นที่นำมาพูดข้างหลังบ้าง ในภาพรวมก็ได้ลงนามข้อตกลงกันแล้ว จึงยึดถือเอกสารที่ลงนามร่วมกัน
ส่วนขั้นที่ 3 จะประเมินการปฏิบัติ ซึ่งมีกลไกที่กำกับอยู่ 2 กลไก คือ กลไกคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) ซึ่งแม่ทัพภาคเป็นประธาน ดูรายละเอียดเรื่องพื้นที่ และกลไก GBC ที่จะมีการประชุมหลังจากนี้อีก 1 เดือน รวมถึงกลไกอีกประการหนึ่ง คือ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว มีผู้ช่วยทูตทหารในอาเซียนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ ที่ยังต้องขอศึกษารายละเอียดก่อน
ส่วนข้อเสนอที่กัมพูชาไม่รับจะนำไปตกลงในการประชุม GBC ครั้งต่อไป โดยจะหยิบยกเรื่องที่กัมพูชาไม่เห็นด้วยขึ้นมาใหม่ จนกว่าจะยอมรับ ส่วนเรื่องการเก็บทุ่นระเบิดกับการปราบปรามสแกมเมอร์ กัมพูชาไม่ได้ให้เหตุผลว่าเหตุใดไม่ยอมรับ แต่ไทยก็พอทราบ
“เขายังอาศัยเรื่องกับระเบิดเป็นเครื่องป้องกันอยู่ เขา (กัมพูชา) พูดว่า เขาเองก็ไม่ไว้ใจฝ่ายเรา ฝ่ายไทยก็ไม่ไว้ใจกัมพูชา ดังนั้นการตกลงให้ได้ข้อยุติความยากมันขนาดไหน ไม่ใช่การพูดคุยทั่วไป จึงต้องชื่นชมและขอบคุณฝ่ายเลขาฯมากๆ ที่สามารถบรรลุข้อเสนอของเรา” พล.อ. ณัฐพลกล่าว
พล.อ. ณัฐพลยังกล่าวด้วยว่า ภาพรวมของการคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ตนเองได้หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมาได้ และขอให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พิจารณาสั่งการให้ส่วนราชการอื่นๆ ดำเนินการคู่ขนานไปด้วย เพราะ ศบ.ทก. จะไม่ทำอะไรที่ผูกพันในระยะยาว แต่จะพยายามให้จบภารกิจเร็ว ถ้าสถานการณ์คลี่คลายก็จะขอจบภารกิจ ศบ.ทก. เพราะเป็นกลไกพิเศษที่ไม่ควรอยู่นาน แต่ปัจจุบันรัฐบาลยังอยากให้ ศบ.ทก. ช่วยดูไปก่อน
พล.อ. ณัฐพลกล่าวอีกว่า มันเป็นภาระที่หนักมาก ที่ผ่านมามีอะไรก็จะต้องเสนอเข้าสู่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทุกเรื่อง เพื่อให้กระบวนการเป็นไปด้วยความรอบคอบและถูกกฎหมาย และวันนี้ได้แต่งตั้งที่ปรึกษา เป็นคณะกรรมการกฤษฎีกา และเลขาธิการ ครม. และเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อให้ช่วยพิจารณาว่าสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ถูกต้องหรือไม่ และยังมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาส่วนตัวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทหาร ด้านสังคมด้านประวัติศาสตร์ ด้านกฎหมาย และด้านแผนที่ รวม 8 คน เพราะเริ่มมองเห็นแล้วว่างานข้างหน้าแค่ GBC หรือ ศบ.ทก. ก็เริ่มเกินกำลังแล้ว
เรื่องสุดท้าย คือ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัด มีความเดือดร้อนมาก อยากจะกลับบ้าน เพราะห่วงบ้าน และผลผลิตทางด้านการเกษตร ที่บางอย่างต้องเก็บเกี่ยวถ้าช้าไปก็อาจจะเสียหาย ซึ่งเมื่อเช้าได้ประสานกับทางแม่ทัพภาคที่ 2 ขอให้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมาหารือ ว่า จังหวัดใดสถานการณ์เหมาะสมขอให้เร่งดำเนินการให้ประชาชนกลับภูมิลำเนา แต่ถ้าสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงก็ขอให้ความร่วมมืออยู่ในศูนย์อพยพก่อน
พล.อ. ณัฐพลกล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัด ตนเห็นความเดือดร้อนของท่าน ซึ่งไม่เคยตัดพ้อให้ ศบ.ทก. หรือ GBC หนักใจ ขอบคุณในความอดทนอดกลั้น จะพยายามคลี่คลายสถานการณ์ให้เป็นไปตามลำดับ ส่วนประชาชนในจังหวัด สระแก้ว จันทบุรี ตราด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ ขอให้อดทนอีกนิด หนึ่ง
“สิ่งที่ฝ่ายทหารเป็นห่วง คือ การที่กัมพูชาระดมยิงอาวุธมาทางฝั่งเรา ยังมีลูกจรวดบางส่วนตกค้างอยู่ในพื้นที่ พี่น้องประชาชนกลับเข้าไปแล้วอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เข้าไปเก็บหรือเข้าไปหยิบ ทำให้ได้รับผลกระทบบาดเจ็บถึงเสียชีวิต ตรงนั้นจะเป็นเรื่องที่เสียใจ เพราะเราพยายามดูแลสถานการณ์มาถึงตรงนี้ และอยู่ดีๆ มีประชาชนมาเสียชีวิตเพิ่มเติม ตรงนั้นเราจะเสียใจมาก ทำให้ฝ่ายทหารขอประเมินอีกนิดหนึ่ง แต่ก็เร่งรัดในการเข้าตรวจพื้นที่ ว่ามีวัตถุระเบิดอะไรที่ยังตกค้างอยู่ในพื้นที่ อันนี้ต้องขอความเห็นใจจากพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เราไม่มั่นใจในสถานการณ์ แต่ทหาร ตำรวจ ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน” พล.อ. ณัฐพลกล่าว