‘ราชสกุลประวิตร’ ให้เวลา 15 วัน ‘วัดกัลยาฯ’ ทำตามคำสั่งศาล สร้าง ‘เจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่ม’ ไว้ที่เดิม
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่สโมสรกีฬาราชประชา นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย ราชสกุลประวิตร พร้อมด้วย พล.อ.ม.ล.สุปรีดี ประวิตร แถลงข่าวเรียกร้องให้ พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร ปฏิบัติตามคำพิพากษา ในคดีทุบทำลายสถูปเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่ม และราชสกุลประวิตร โดย พล.อ.ม.ล.สุปรีดี กล่าวว่า ตามที่พระพรหมกวี ซึ่งในขณะที่มีสณศักดิ์ที่พระธรรมเจดีย์ ได้ดำเนินการทุบทำลายเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่มและราชสกุลประวิตร ที่วัดกัลยาณมิตร เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2551 ซึ่งเจดีย์ดังกล่าวบรรจุอัฐิ เจ้าจอมมารดาแช่ม ในรัชกาลที่ 5 พระเจ้าพี่ยาเธอ พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม หม่อมชื้น ประวิตร ณ อยุธยา ม.จ.จิตรปรีดี ประวิตร ม.จ.วิกรมสุรสีห์ ประวิตร ม.จ.กนิษฐากุมารี ประวิตร ม.ล.เหมือนจันทร์ ประวิตร และต่อมาทางราชสกุลประวิตร ได้เข้าชี้แจงกับเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร ทั้งได้มีการลงนามในข้อตกลงร่วมกันว่าจะสร้างเจดีย์ทดแทนองค์เดิม ในตำแหน่งเดิม เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2551
พล.อ.ม.ล.สุปรีดี กล่าวต่อไปว่า จากนั้นเป็นต้นมา ก็ได้มีการทวงถามมาโดยตลอด แต่ทางวัดกลับมีการสร้างศาลารายทับฐานเจดีย์เดิม ก่อนที่จะตอบกลับมาในวันที่ 2 ต.ค. 2557 ว่า ทางวัดกัลยาณมิตร ไม่พบหลักฐานการสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิเจ้าจอมมารดาแช่มและราชสกุลประวิตร ในวัดกัลยาณมิตร ดังนั้นในเมื่อเจ้าอาวาสไม่ยอมทำตามข้อตกลง ทางราชสกุลประวิตร จึงจำเป็นต้องยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งธนบุรี เมื่อปี 2562 และศาลพิพากษาให้ทางวัดรื้อถอนศาลารายหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นเฉพาะในส่วนที่เคยเป็นที่ตั้งของเจดีย์เจ้าจอมมารดาแช่ม หรือเจดีย์ราชสกุลประวิตร และสร้างเจดีย์องค์ใหม่แทนตามรูปแบบเดิมในตำแหน่งเดิม และทางวัดได้อุทธรณ์จนถึงชั้นฎีกา โดยศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืน เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2566
"หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว จึงได้มีการแจ้งไปยังเจ้าอาวาสอีกครั้งว่า จะต้องดำเนินการตามคำพิพากษาศาลฎีกา พร้อมทั้งได้ทำหนังสือสอบถามทางกรมศิลปากรด้วยว่า จะสามารถดำเนินการทุบศาลารายได้หรือไม่ เนื่องจากวัดกัลยาณมิตรเป็นโบราณสถาน ซึ่งทางกรมศิลปากรแจ้งกลับมาว่า ศาลารายดังกล่าวสร้างขึ้นใหม่ ไม่ได้เป็นโบราณสถาน สามารถทำลายได้เลย" พล.อ.ม.ล.สุปรีดี กล่าว
ด้านนายวิฑูรย์ กล่าวว่า อยากขอวิงวอนเจ้าอาวาสให้ดำเนินการตามที่ศาลมีคำพิพากษา และกรมศิลปากรด้วย ยอมรับว่าการดำเนินการเรื่องนี้ละเอียดอ่อน จึงอยากให้ทางเจ้าอาวาสยอมรับการบังคับคดีด้วย โดยจากนี้จะให้เวลาอีก 15 วัน หากเจ้าอาวาสยังไม่ดำเนินการ ทางราชสกุลประวิตร จำเป็นต้องดำเนินการบังคับคดี และนำผู้รับเหมาเข้าไปดำเนินการทุบศาลารายเอง