'ชนินทร์' เผย 'รัฐบาล' เร่งสั่ง5ข้อ ส่งผู้อพยพชายแดน กลับบ้าน
ที่พรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรมว.มหาดไทย ฐานะรองโฆษก พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา 7 จังหวัดว่า หลังจากสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่สงบลง รัฐบาลได้ดำเนินการตามแผนช่วยเหลือและฟื้นฟูที่ครอบคลุมและเป็นรูปธรรมในหลายด้าน โดยประสานรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย รวมถึง สส. ของพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบที่ชายแดนอย่างเต็มที่ และเร่งด่วน ทั้งในด้านชีวิตความเป็นอยู่ การเคลื่อนย้ายกลับที่ตั้ง การรักษาความปลอดภัย และการฟื้นฟูสภาพพื้นที่
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ รมช.มหาดไทย เดินทางไปพบปะกับพี่น้องประชาชนที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว อำนวยความสะดวกในการส่งพี่น้องประชาชนกลับบ้านและได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการ 4 จังหวัด คือ สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และ บุรีรัมย์ เพื่อติดตามและสั่งการ การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ
โดยได้สั่งการใน 5 แนวทางสำคัญ ได้แก่
1.ข้อสั่งการเรื่องอำนวยความสะดวกในการกลับบ้าน ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมช่วยเสริมรถเดินทาง ให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยอำนวยความสะดวกรถพยาบาลสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุ และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เตรียมอาหารแห้งและของใช้บางส่วน ให้พี่น้องประชาชนกลับไปใช้ในช่วงต้น
2.ข้อสั่งการเรื่องสำรวจความเสียหายและการซ่อมแซม มีคำสั่งให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งตรวจสอบความเสียหาย เพื่อเบิกจ่ายเงินเยียวยา และให้ผู้ว่าราชการประสานทุกส่วนราชการที่ดำเนินการได้ เช่น ทหาร ช่าง อาชีวะศึกษา และโยธาธิการ ช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน โดยใช้เงินทดรองจ่ายตามกรอบที่ดำเนินการได้โดยเร็ว
3. ข้อสั่งการเรื่องการลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน โดยเตรียมขอมติ ครม. เพื่อให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการประปาส่วนภูมิภาค เว้นการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างช่วงก.ค.-ส.ค. 2568
4.ข้อสั่งการเรื่องการสำรวจประกอบอาชีพและสาธารณสุข ทั้งเรื่องสุขภาพกายและใจ โดยกระทรวงสาธารณสุข ครอบคลุมทั้งประชาชนที่มีการเสียขวัญจากสถานการณ์การสู้รบ และผู้ปฏิบัติงานทั้งทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ทุกคนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยเช่นกัน
5.ข้อสั่งการเรื่องการตอบแทนเจ้าหน้าที่อาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ โดยเตรียมขอมติ ครม.เพื่อดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่ได้รับแต่งตั้งให้ช่วยดำเนินการในภารกิจดูแลประชาชนระหว่างช่วงอพยพ ในกรอบวงเงินวันละ 120 - 240 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสียงภัยตลอดเวลาที่ผ่านมา