โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

นักวิชาการมธ.เชื่อ ต่างชาติเมิน TouristDigiPay ไม่แลกเงินดิจิทัลเป็น บาทแน่นอน

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากกรณีที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดตัวโครงการ TouristDigiPay เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถแปลงมาเป็นเงินบาทผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเงินบาทนั้นจะถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) เพื่อนำไปใช้ชำระเงินตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลจะดำเนินการทดสอบในพื้นที่ Sandbox เป็นระยะเวลา 18 เดือน

ศ. ดร.อาณัติ ลีมัคเดช อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการ TouristDigiPay ของรัฐบาลเป็นเพียงการสร้างสีสันและค่อยๆ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากขึ้น แต่ถ้าโฟกัสเฉพาะโครงการนี้ ค่อนข้างมั่นใจว่าคงไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจเข้าร่วม และไม่เข้าใจและมองไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องมีการจัดทำพื้นที่ Sandbox ด้วยเหตุผลอะไร

เพราะในสถานการณ์ความเป็นจริง นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและประชาชนทั่วไปสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโทเคอร์เรนซี บิทคอยน์ ฯลฯ เพื่อซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการร้านค้าที่เปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงได้อยู่แล้ว ไม่ต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท ไม่ต้องเสียเวลาในกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยต่างๆ และไม่มีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. เงินตรา พ.ศ. 2501 อยู่แล้ว

นอกจากนี้พ.ร.บ. เงินตรา พ.ศ. 2501 ได้ระบุหลักการที่สำคัญแต่เพียงว่าห้ามมิให้มีการพิมพ์เงินเป็นของตนเองและเงินบาทนั้นเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย กล่าวคือหากต้องชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยตามเวลาที่กำหนดไว้กับเจ้าหนี้ ก็จะต้องชำระเป็นเงินบาทเท่านั้น ไม่สามารถชำระด้วยเงินสกุลอื่นได้ และการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายการควบคุมเงินตราระหว่างประเทศ

ดังนั้น เมื่อไม่มีความผิดตามกฎหมาย ก็ไม่เป็นจำเป็นต้องแก้ไขกฎระเบียบบางอย่างให้มีความพิเศษหรือยืดหยุ่นสำหรับการทดลองใช้งาน จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงต้องมีการทำ Sandbox

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการในไทย เช่น ร้านลิ้มเหล่าโหงว ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าแรกในประเทศไทยที่รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์เป็นตัวอย่างอยู่ก่อนแล้ว รวมไปถึงการซื้อคอนโดบางแห่งก็สามารถชำระได้ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการขั้นตอนที่ชาวต่างชาติจะแลกเปลี่ยนจากสินทรัพย์ดิจิทัลมาเป็นเงินบาทได้ก็มีความซับซ้อนหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้บริการ (Know Your Customer: KYC)

เมื่อได้เงินบาทมาแล้วชาวต่างชาติจะต้องไปสมัครกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่มีให้บริการในไทย เช่น TrueMoney Wallet, ShopeePay, Rabbit LINE Pay หรือบัตรเติมเงินของธนาคารต่างๆ และจะต้องยืนยันตัวตน KYC อีกรอบ เพื่อโอนเงินบาทเข้าสู่ e-Money จึงจะสามารถซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ได้

ศ. ดร.อาณัติ ลีมัคเดช อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)

จากขั้นตอนทั้งหมดที่พูดมา ขอถามจริงๆ ว่าจะมีต่างชาติสักกี่คนที่ยอมทำ ส่วนตัวค่อนข้างมีความเชื่อมั่นว่าคงไม่มีต่างชาติคนไหนทำ เพราะพวกเขามีคริปโท มีบิทคอยน์อยู่ในกระเป๋าเงินสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ E-wallet ของเขาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอป MetaMask Wallet, แอป Trust Wallet ซึ่งเป็นแอปที่ใช้กันในระดับสากล ที่ไม่จำเป็นต้องทำ KYC ก็สามารถเดินไปซื้อของจากร้านที่เขารับสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ได้โดยตรง ไม่ต้องไปแลกเงินบาท ไม่ต้องไปสมัคร e-Money ให้ยุ่งยาก ผู้ประกอบการหรือร้านค้าเหล่านี้ เขาก็แค่สมัครแอป MetaMask Wallet, แอป Trust Wallet เช่นกัน เพื่อรับคริปโทหรือบิทคอยน์จากชาวต่างชาติ และร้านค้าก็สามารถนำไปแปลงเป็นเงินบาทได้ที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีแค่ขั้นตอนนี้เท่านั้นที่จะต้องมีการทำ KYC” ศ. ดร.อาณัติ กล่าว

ศ. ดร.อาณัติ กล่าวต่อไปว่า ด้วยเหตุนี้ กระบวนการที่เชื่อกันว่าจะมีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทจึงจะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ภาครัฐควรทำมากกว่าคือการหาหนทางแก้ไขปัญหาการฟอกเงิน เพราะการใช้แอปพลิเคชัน MetaMask Wallet และ Trust Wallet ที่ไม่มีขั้นตอนการทำ KYC ทำให้ไม่เห็นตัวตนผู้ใช้งาน ยากแก่การกำกับติดตาม และนี่คือปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ว่ารัฐบาลจะมีการประกาศโครงการ TouristDigiPay หรือไม่

สิ่งเหล่านี้คือเทรนด์ของอนาคตที่กำลังรุกคืบเข้ามาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง หากในวันข้างหน้าประเทศไทยมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักแทนเงินบาท สิ่งที่จะเกิดขึ้นและเป็นสิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รู้สึกกังวลยิ่งกว่าปัญหาการฟอกเงิน ก็คือการสูญเสียบทบาทในการดำเนินนโยบายทางการเงินของ ธปท. ทั้งการควบคุมอัตราดอกเบี้ย การควบคุมเงินเฟ้อ จากความเสี่ยงที่เงินบาทอาจไม่ได้เป็นสื่อหลักในการชำระเงินของประเทศอีกต่อไป ซึ่งหากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปอำนาจของเงินบาทและอำนาจของ ธปท. จะหายไปโดยอัตโนมัติ

“มันถึงเวลาที่ผู้ดำเนินนโยบายทางการเงินของไทยจะต้องเตรียมการรับมืออย่างจริงจัง ณ วันนี้ประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกอย่างสิงคโปร์ ดูไบ ฯลฯ ล้วนมีสิ่งที่เรียกว่า Blockchain Analytics ทั้งหมด เพื่อการติดตามการไหลของสินทรัพย์ การตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัย และการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ ส่วนตัวคิดว่ากลไกอันนี้เป็นสิ่งที่ผู้ดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างแบงก์ชาติ หรือ ปปง. ควรจะหันมาให้ความสนใจไว้บ้างแล้ว ดังนั้นการที่รัฐมนตรีคลังได้ออกมาประกาศโครงการนี้ก็ถือเป็นการกระตุ้นให้หน่วยงานเหล่านี้ต้องตื่นตัวมากขึ้น” นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

กาสิโนไร้โต๊ะเกมจุดเปลี่ยนสู่ยุคเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

51 นาทีที่แล้ว

ราคาน้ำมันพรุ่งนี้2568 (21 ส.ค. 68) บางจาก ปตท. อัปเดตราคาล่าสุด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถ่ายทอดสด Shopee Cup 'บุรีรัมย์ vs เซลังงอร์' ดูบอลสดวันนี้ 19.00 น.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สอวช.หนุนวิจัยยุทโธปกรณ์เพื่อความมั่นคง ลดพึ่งพานำเข้า

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

SCB 10X จับมือสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา นำ AI Typhoon ยกระดับการศึกษาไทย เตรียมความพร้อมสู่ PISA 2025

BTimes

หุ้นไทยพุ่ง! นลท.กลับมาซื้อหุ้นใหญ่กลุ่มปิโตรเคมี-โรงกลั่น ดึงปิด +12.37 จุด วอลุ่ม 4.3 หมื่นล.

สยามรัฐ

Crypto Tourism ก้าวสู่นวัตกรรมการเงินดิจิทัล

เดลินิวส์

หุ้นไทยวันนี้ 20 สิงหาคม 2568 ปิดพุ่ง 12.37 จุดโดดเด่นกว่าภูมิภาค

TNN ช่อง16

“คมนาคม” ยันพร้อม 25 ส.ค.นี้ เปิดลงทะเบียนรับสิทธิรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

เดลินิวส์

ปตท. ชูกลยุทธ์เด่น สร้างธุรกิจแกร่ง ตั้งเป้าปั๊มกระแสเงินสดทะลุ 1 แสนล้านบาท

Khaosod

นักวิชาการชี้จีนเจอภาษีสหรัฐ 30% คาดใน 3 ปี สินค้าจีนทะลักเข้าไทย

ประชาชาติธุรกิจ

เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ครม. เคาะแจกเงินข้าวนาปี-นาปรัง

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...