สอวช.หนุนวิจัยยุทโธปกรณ์เพื่อความมั่นคง ลดพึ่งพานำเข้า
ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “Technology and Innovation Policy for New S-Curve Industry” จัดโดยสภาวิศวกร พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิด้านอุตสาหกรรมและวิศวกรรม
ดร.สุรชัย เปิดเผยว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยต้องยึดกรอบ 12 S-Curve แต่ต้องปรับตัวตามพลวัตโลก โดย สอวช. ทำหน้าที่วางนโยบายด้านอววน. เพื่อรองรับอุตสาหกรรมอนาคต เช่น
อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต: ผสานวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเพิ่มคุณค่าด้านสุขภาพควบคู่กับรสชาติ เจาะตลาดโลก
ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่: แม้ไทยไม่สามารถแข่งขันได้ทุกขั้นตอน แต่สามารถพัฒนาแบตเตอรี่แพ็ก ระบบจัดการ และรีไซเคิลตรงบริบทการใช้งานในประเทศ
เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง (Advanced Electronics) และ AI : ไทยเข้าสู่กระแสโลก พร้อมความร่วมมือระดับนานาชาติ เช่น Synbio Consortium
ชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology) และการศึกษา : สร้าง Non-Degree Programs และดึงมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกเข้ามาเปิดหลักสูตร
ขับเคลื่อนงานวิจัยด้านความมั่นคง
ดร.สุรชัย กล่าวว่า ความมั่นคงของประเทศและเทคโนโลยีด้านอาวุธ เป็นประเด็นสำคัญ โดย สอวช. พร้อมสนับสนุนงานวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ ลดการพึ่งพาการนำเข้า และสร้างโอกาสส่งออก เนื่องจากไทยมีศักยภาพทั้ง กองทัพและเอกชน สามารถสร้างอุตสาหกรรมนี้ได้
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการปลดล็อกอุปสรรคด้านกฎหมายและการศึกษา เช่น
- ผลักดัน พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ให้ผู้วิจัยถือครองสิทธิในผลงาน
- ใช้ Offset Policy ในโครงการรัฐ 1,000 ล้านบาท ให้เกิดประโยชน์ตอบแทนกลับไทย
- สร้าง Higher Education Sandbox ปรับหลักสูตรมหาวิทยาลัยให้ตรงกับความต้องการอุตสาหกรรม เช่น EV, AI, Advanced Electronics
เสียงสะท้อนจากภาคอุตสาหกรรม
ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ อนุกรรมการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เสนอ New S-Curve อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การแพทย์ขั้นสูง ดิจิทัล และ ชีวภาพ พร้อมกองทุนสนับสนุนโดย บีโอไอ แต่ผู้ประกอบการไทยยังเผชิญข้อจำกัดการแข่งขันภาษีและสินค้าจีน
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานคณะ S-Curve Smart City and Artificial Intelligence สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เห็นว่า ภาคธุรกิจไทยพึ่งการผลิตมากกว่าสร้างเทคโนโลยี ทำให้ติดกับดักรายได้ปานกลาง แนะกล้าเปลี่ยนอุตสาหกรรมสู่ Future Food, MedTech, Industrial AI และ Climate Tech เพื่อตอบโจทย์โลก
ขณะที่ ดร.สุรชัย สรุปว่า ไทยมีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคตและความมั่นคง พร้อมสนับสนุนวิจัยและนวัตกรรมทุกด้านให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในประเทศและตลาดโลก การเชื่อมโยง ภาคเอกชน กองทัพ และงานวิจัยไทย จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า และสร้างโอกาสส่งออก ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ