“ยูซีแอล” พร้อมดันไทยสู่ศูนย์สองล้อเอเชีย แต่ยังติดปัญหาใหญ่ “สนาม” ไม่ได้มาตรฐานโลก
"เสธ.หมึก" พล.อ.เดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (ACF) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ประชุมออนไลน์ผ่านระบบ Zoom ภายใต้โครงการ Development of National Sport System (DNSS) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) กับ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านบุคลากรและนักกีฬาจักรยานของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยมี มร.บาซิล โมเรลลอน และ มร.ฌอง ฌักส์ อองรี ผู้ประสานงานด้านการศึกษาและทุน ของ UCI เข้าร่วมการประชุมนั้น
สาระสำคัญของการหารือก็คือเรื่องการผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการพัฒนากีฬาจักรยานในภูมิภาคเอเชีย ทางผู้แทน UCI ให้ความเห็นว่า ประเทศไทย มีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาขึ้นไปเป็นศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเป็นศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาคเอเชีย ไปจนถึงความพร้อมด้านบุคลากร, เทคโนโลยีและเครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังขาดอยู่ก็คือเวลโลโดรมในร่มความยาว 250 เมตร ซึ่งศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาค จำเป็นต้องมีสำหรับนักปั่นประเภทลู่ในการฝึกซ้อม เนื่องจากในปัจจุบันการแข่งขันจักรยานประเภทลู่รายการระดับนานาชาติและระดับโลก ไปจนถึงโอลิมปิกเกมส์ ก็จะใช้สนามเวลโลโดรมในร่ม 250 เมตร เป็นสนามแข่งขัน
"ขณะที่ ประเทศไทย ปัจจุบันเวลโลโดรมทั้ง 4 แห่งที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่หัวหมาก, เชียงใหม่, สุพรรณบุรี และนครราชสีมา ล้วนแล้วแต่เป็นเวลโลโดรมกลางแจ้ง ความยาว 333.33 เมตรต่อรอบ ซึ่งไม่สามารถรองรับการแข่งขันระดับโลกได้ โดยเฉพาะรายการสำคัญ ๆ ที่มีผลต่อการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกโควตาโอลิมปิกเกมส์ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย, ยูซีไอ แทร็คเนชั่นส์คัพ หรือยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ หรือจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์โลก" พล.อ.เดชา กล่าว