สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 12 ส.ค. 68
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงราย (110 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.สุรินทร์ (57 มม.) ภาคกลาง : จ.สระบุรี (63 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ตราด (133 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (39 มม.) ภาคใต้ : จ.พังงา (86 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 13 - 17 ส.ค. 68 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 65% ของความจุเก็บกัก (52,302 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 49% (28,183 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
3. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้.(11 ส.ค. 68).ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์ โดยมี นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายชวลิต กันคำ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายชวลิต สุราราช ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 3 กรมชลประทาน (ชป.) พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สทนช. กฟผ. และ ชป. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
การประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางเดือน ส.ค. 68 เป็นต้นไป อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำยม-น่าน จึงสั่งการให้ สทนช. จัดประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ครั้งที่ 2/2568 ที่ศาลากลางจังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 68 โดยที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ ช่วงสถานการณ์ฝนตกหนักจากผลกระทบของพายุโซนร้อน “วิภา” และส่งผลให้เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดในลุ่มน้ำยม-น่าน โดยที่การบริหารจัดการน้ำในขณะนั้นเขื่อนสิริกิติ์ได้ปรับลดอัตราการระบายน้ำลงเพื่อช่วยหน่วงน้ำไม่ให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และเร่งการระบายน้ำในลุ่มน้ำยมลงสู่แม่น้ำน่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำด้วย ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์เพิ่มสูงขึ้น จากช่วงก่อนเกิดพายุโซนร้อน “วิภา” ที่มีปริมาณน้ำ 62% ของความจุเก็บกัก แต่ในปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 84% ของความจุเก็บกัก และมีพื้นที่รองรับน้ำได้อีกเพียง 1,500 ล้าน ลบ.ม.
ในการนี้ สทนช. จึงได้หารือร่วมกับ กฟผ. และ ชป. ในการปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างรองรับสถานการณ์ในช่วงถัดไป โดยอัตราการระบายน้ำจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนด้วย ซึ่งปัจจุบัน (11 ส.ค. 68) เขื่อนสิริกิติ์มีอัตราการระบายน้ำ 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน รวมทั้งมีการบริหารจัดการน้ำเขื่อนตามแนวแม่น้ำน่านในภาพรวม ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนผาจุก และเขื่อนนเรศวร ให้มีความสมดุลสอดรับกัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนนเรศวร เพื่อช่วยลดระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งเข้าพื้นที่การเกษตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนใน จ.อุตรดิตถ์ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยส่งน้ำส่วนเกินเข้าสู่พื้นที่ชลประทานด้วย ดังนั้น การระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ในช่วงนี้ จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานจะติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักบริเวณท้ายเขื่อนเพิ่มมากขึ้น เขื่อนสิริกิติ์จะต้องพิจารณาปรับลดการระบายลง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ท้ายน้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 11 ส.ค. 68