เพชรบุรีรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ “สมเด็จพระเทพฯ” จัดงานวันสืบสานการอนุรักษ์แม่น้ำ
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายชัยพล ภูต้องลม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานพิธีเปิดงานงานวันสืบสานการอนุรักษ์แม่น้ำเพชรบุรี ประจำปี 2568 โดยมีนายกิตติพงษ์ เทพพานิช นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวเพชรบุรี ร่วมรำลึกถึงความสำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี ณ บริเวณริมน้ำข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี
นายชัยพล กล่าวว่า วันที่ 7 สิงหาคม ถือเป็นวันสำคัญยิ่งสำหรับชาวเพชรบุรี เนื่องจากเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2541 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดเพชรบุรี และทรงหลั่งน้ำลงสู่แม่น้ำเพื่อคืนชีวิตและอนุรักษ์มะฮอกกานี ณ บริเวณริมแม่น้ำเพชรบุรี (วังบ้านปืน) ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่สร้างความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จังหวัดจึงได้กำหนดให้วันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันสืบสานการอนุรักษ์แม่น้ำเพชรบุรี เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักว่าแม่น้ำเพชรบุรีเปรียบเสมือนเส้นชีวิตของชาวเพชรบุรีอย่างแท้จริง
นายชัยพล ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมีความรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อแม่น้ำเพชรบุรี ทางจังหวัดจึงมีนโยบายให้ความสำคัญกับการรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และดูแลแม่น้ำให้ใสสะอาด เพื่อมุ่งสู่การเป็น เมืองน่าอยู่ น่ากิน และน่าเที่ยว สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ในปีนี้จังหวัดเพชรบุรีได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาแม่น้ำเพชรบุรีในระยะทาง 3,500 เมตร ตั้งแต่เขตเทศบาลไปจนถึงเขตติดต่อขององค์การบริหารส่วนตำบลต้นมะม่วง และมีแผนจะขยายพื้นที่การดำเนินงานต่อไปในอนาคต
สำหรับในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของแม่น้ำเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็นการแสดงชุดพิเศษ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความสำคัญของแม่น้ำ การกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการอนุรักษ์ นิทรรศการ ที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาและคุณค่าของแม่น้ำ กิจกรรมพายเรือคายัคเก็บขยะ เพื่อลงมือทำความสะอาดแม่น้ำร่วมกัน ขบวนรณรงค์ เพื่อปลุกจิตสำนึกให้แก่ชาวเพชรบุรี การมอบรางวัล แก่ผู้ชนะการประกวดคลิปสื่อสร้างสรรค์ในหัวข้อ "เด็กเพชรใสใจสืบสานการอนุรักษ์แม่น้ำเพชรบุรี" กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของชาวเพชรบุรีในการรักษาทรัพยากรอันล้ำค่านี้ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน