ป้ายบอกทางสีเหลือง คืออะไร รู้ก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน
หากคุณขับรถอยู่แล้วพบว่ามีปัายที่บอกทางทั้งลูกศร หรือแบบอื่น แต่มีพื้นหลังเป็นสีเหลือง หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องมีป้ายแบบนี้ขึ้นมา ใช้สีขาวแบบเดิมไม่ได้หรอ วันนี้ Sanook Auto มีคำตอบคลายข้อสงสัยให้กับผู้ใช้รถ รวมถึงคนที่กำลังจะสอบใบขับขี่ต้องรู้ด้วยนะ
ป้ายพื้นหลังสีเหลืองคืออะไร
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า โดยหลักแล้วป้ายจราจรที่มีพื้นหลังสีเหลือง ขอบสีดำ พร้อมสัญลักษณ์หรือข้อความสีดำนั้น จัดอยู่ในหมวด "ป้ายเตือน" (Warning Signs) หน้าที่หลักของป้ายประเภทนี้ คือการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้ทราบล่วงหน้าถึงสภาพเส้นทางที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
หรือจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถลดความเร็วและเตรียมความพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที
แล้วทำไมถึงเรียกว่า "ป้ายบอกทางสีเหลือง"?
สำหรับทำไมป้ายต้องเป็นบอกทางสีเหลือง ก็เพราะว่า ในหลักการแล้วสีเหลืองคือการเตือน ดังนั้นป้ายสีเหลืองก็ทำหน้าที่ "บอกทิศทางชั่วคราว" ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการก่อสร้าง ซ่อมแซมถนน หรือมีเหตุการณ์พิเศษ ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางจราจร นี่จึงเป็นที่มาที่หลายคนเรียกว่า "ป้ายบอกทางสีเหลือง"
โดยป้ายเหล่านี้จะทำหน้าที่แนะนำเส้นทางเลี่ยง หรือบอกให้เบี่ยงไปใช้ช่องจราจรอื่นชั่วคราว เช่น ป้ายทางเบี่ยงซ้าย/ขวา, ป้ายเปลี่ยนช่องจราจร, หรือป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง ซึ่งล้วนแต่ใช้พื้นหลังสีเหลืองเพื่อเน้นย้ำให้ผู้ขับขี่เห็นได้ชัดเจนและปฏิบัติตามเพื่อความปลอดภัยและลดปัญหาการจราจร
ตัวอย่าง "ป้ายเตือนสีเหลือง" ที่พบบ่อยบนท้องถนน
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เรามาดูตัวอย่างป้ายเตือนสีเหลืองที่ผู้ขับขี่มักจะพบเจอเป็นประจำ พร้อมความหมายที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษกันดีกว่า
กลุ่มเตือนสภาพเส้นทาง
- ป้ายเตือนทางโค้ง (ซ้าย/ขวา, โค้งกลับ, ทางคดเคี้ยว): สัญญาณเตือนให้ลดความเร็วก่อนถึงโค้ง เพื่อป้องกันการเสียหลักแหกโค้ง
- ป้ายเตือนทางแยก: แจ้งให้ทราบว่าข้างหน้ามีทางแยก อาจเป็นสามแยก สี่แยก หรือทางแยกที่ซับซ้อน เพื่อให้เตรียมชะลอความเร็วและมองรถจากทิศทางอื่น
- ป้ายเตือนวงเวียนข้างหน้า: ให้เตรียมพร้อมเข้าสู่วงเวียน โดยต้องให้สิทธิ์รถที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
- ป้ายเตือนทางแคบลง: บอกให้รู้ว่าช่องจราจรข้างหน้าจะลดลง ผู้ขับขี่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเบียดหรือแซง
- ป้ายเตือนถนนลื่น: มักพบในบริเวณที่ฝนตกบ่อยหรือมีน้ำขัง เตือนให้ขับช้าลงเป็นพิเศษ เพราะรถอาจเสียการควบคุมได้ง่าย
กลุ่มเตือนสิ่งที่ต้องระวัง
- ป้ายเตือนเขตโรงเรียน: สัญลักษณ์รูปเด็กนักเรียน เตือนให้ลดความเร็วสูงสุดและพร้อมที่จะหยุดเสมอ โดยเฉพาะช่วงเวลาเปิด-ปิดเรียน
- ป้ายเตือนทางข้ามทางรถไฟ (มี/ไม่มีเครื่องกั้น): สัญญาณเตือนที่สำคัญอย่างยิ่ง ผู้ขับขี่ต้องชะลอและสังเกตให้แน่ใจว่าไม่มีรถไฟกำลังมา ก่อนจะขับผ่านไป
- ป้ายเตือนระวังสัตว์: ในพื้นที่นอกเมืองหรือใกล้เขตป่า อาจมีสัตว์ป่าข้ามถนน ป้ายนี้จึงเตือนให้ขับช้าลงและสังเกตสองข้างทาง
- ป้ายเตือนระวังหินร่วง: พบได้บ่อยในเส้นทางขึ้นเขาหรือตัดผ่านภูเขา ให้ระมัดระวังหินที่อาจร่วงหล่นลงมาบนถนน
กลุ่มเตือนในเขตงานก่อสร้าง (ป้ายบอกทางชั่วคราว)
- ป้ายทางเบี่ยง (ซ้าย/ขวา): ป้ายลูกศรชี้ทิศทางให้เบี่ยงออกจากเส้นทางเดิม มักใช้ร่วมกับกรวยหรือแผงกั้น
- ป้ายช่องจราจรปิดด้านหน้า: แจ้งให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนช่องจราจรล่วงหน้า เพราะช่องทางที่ใช้อยู่กำลังจะถูกปิด
- ป้ายคนทำงาน: เตือนให้ระวังเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ในบริเวณนั้น
ดังนั้นแล้ว ทุกครั้งที่คุณเห็นป้ายบอกทางสีเหลืองอาจไม่ใช่ป้ายที่นำคุณไปสู่จุดหมายปลายทางโดยตรง แต่เป็นการ "เตือน" ว่าอาจจะมีอันตรายอยู่ข้างหน้า และปฏิบัติตามป้ายเตือนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับตัวคุณเอง แต่ยังแสดงถึงความใส่ใจต่อเพื่อนร่วมทางอีกด้วย ครั้งต่อไปเมื่อเห็นป้ายสีเหลืองข้างหน้า
อย่าลืมชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง เพราะนั่นคือสัญญาณเตือนจากความห่วงใย เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณราบรื่นและปลอดภัยถึงที่หมาย