แม่ทัพภาค 2 ยืนยันบัญชาการสู้รบตลอดแนว ตรวจความพร้อมก่อนปิดปราสาทตาเมือนธม
มทภ.2 ชี้ภาวะผู้นำในการสู้รบ ต้องกล้าตัดสินใจ สั่งปิดปราสาทตาเมือนธม แล้วก็ยิงกันตามที่คาดการณ์ไว้ ต้องเอาแผ่นดินคืนมาด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ เป็นผู้บังคับบัญชาต้องวิเคราะห์สถานการณ์ให้ออก ลั่น พร้อมจูบปากแม่ทัพกัมพูชา หาก ผู้นำเขมรจริงใจไม่ทะเลาะไทย ชั่วกัลปาวสาน ชี้กระแส ชาตินิยมเป็นไทม์มิ่งที่ดี ต้องรักษาต่อไป เพื่อสร้างความสามัคคี ป้องกัน ถูกบั่นทอน เศรษฐกิจ สังคม การทหาร
2 กันยายน 2568 - เวลา 10.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 บรรยายพิเศษในหัวข้อ วิสัยทัศน์หลักธรรมะ และการวางยุทธศาสตร์ป้องกันชายแดน วิชาอาณาเขตศึกษา ให้กับนักศึกษาปี1 ภาควิชาเอเชียตะวันออกเชียงใต้ คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พลโทบุญสิน กล่าวต่อหนึ่งว่า ทหารก็คือลูกหลานประชาชน อยากให้พวกเราลืมอดีต ให้อยู่กับปัจจุบัน บางอย่างไม่เหมือนเดิม เหตุใดสหรัฐถึงไปญี่ปุ่น ไปเวียดนาม สองประเทศนี้ตัวเองสหรัฐเคยเอา ระเบิดปรมาณู ไปหย่อนใส่เขา
ในเวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผ่านไปแล้ว เช่นเดียวกับปัจจุบันเพราะเหตุใดแม่ทัพถึงเข้าตีกัมพูชา เพราะอะไร มีการรุกล้ำมานานแล้ว ทันทีที่ไปรับตำแหน่ง มทภ.2 ก็คิดว่าเราทำหน้าที่อะไร เหมือนเป็นการทิ่มแทงใจอยู่เรื่อยๆ เราไม่ตำหนิอดีต เพราะไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น อย่าเอาดีใส่ตัว ตนไม่ใช่คนเก่ง แต่เมื่อถึงเวลาก็ต้องทำการสู้รบ 4 วัน5คืน ทำให้เต็มที่ แน่นอนต้องยอมรับความเสี่ยง ต้องมีน้องๆ สูญเสียแน่นอน
พลโทบุญสิน กล่าวน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนชอบใส่ชุดฝึก เพราะเป็นชุดที่น้องๆเสียชีวิต มีน้องขาขาด ตาสองข้างบาดเจ็บ สิ่งเหล่านี้เพื่อที่จะสดุดีเขา คือถ้าใครมานั่งในตำแหน่งนี้ มีทหารบาดเจ็บ666นายเสียชีวิต18 นาย แม่ทัพต้องไปเยี่ยมทุกคน และไม่เคยเหนื่อยที่จะไปเยี่ยมพวกเขา เพราะสิ่งที่เขาเหนื่อยมากกว่าเราอีก
พลโทบุญสิน ย้ำว่า วันนั้นทหารพูดอยู่ประโยคเดียวว่า "พวกผมอยากได้แผ่นดินคืน" ทั้งนี้แม่ทัพมีประสบการณ์อยู่กับลูกน้องมาตลอดในชีวิต เรียนไม่เก่ง แต่โดยจิตวิญญาณที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ชอบอยู่กับลูกน้องและนำหน่วย ทำให้เขาเห็น แม้ตนเป็นแม่ทัพเพียงปีเดียว มีเหตุการณ์นี้ถือว่าโชคดี ได้ทำหน้าที่ ผบ.ยุทธบริเวณ ที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ได้ทำหน้าที่เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ ก็ไม่น่าใช่ ทำไมเป็นแม่ทัพปีเดียว แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ นี่คือบุญบารมีของพระสยามเทวาธิราช ให้คนไทยได้ทราบบางอย่าง
พลโทบุญสิน ยังเปรียบเทียบชายแดนไทย-กัมพูชา กับ ชายแดนไทย-สปป.ลาว ว่า ปัญหาชายแดน มี2 ประการ คือ ภูมิประเทศและคนในประเทศนั้น ทุกวันนี้ที่มีปัญหา คนเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าไปพูดคุยกับคน ปัญหาก็ไม่มี ผู้นำกัมพูชา เป็นอย่างนี้ ปัญหาถึง
แต่สำหรับ คนในสปป.ลาว ให้เกียรติกัน ถึงไม่ปัญหา เป็นประเทศที่ติดกับประเทศไทยที่พูดรู้เรื่องโดยที่ไม่ต้องใช้ล่าม เขาให้เกียรติเรา เป็นมิตรกับเรา และไม่มีปัญหาเพราะมีแม่น้ำโขงกั้น ได้ไปเจอกับ ท่านวันทอง บุตรวงศ์ รองเสนาธิการทหาร สปป.ลาว ก็พูดภาษาอีสานเหมือนกัน กินอาหารแบบเดียวกัน กินปลาร้า กินป่น กินส้มตำ ท่านเล่าว่า ท่านรู้จักประวัติศาสตร์ประเทศไทยมากกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 อีก แสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างกัน
สำหรับกัมพูชาไม่มีแม่น้ำกั้น มีดินติดกัน เขาก็คิดเหมือนเรา เอาแผนที่อะไรมาอ้างอิง จริงหรือเท็จไม่รู้ แต่แม่ทัพกุ้งใช้แผนที่1:50000 ที่รัฐบาลไทยรับรอง
กัมพูชาอยากได้แผ่นดิน แต่แผนที่แต่ละฝ่ายไม่ตรงกัน มีทางเดียว ต่างฝ่ายต่างอยู่ หากเอาแผนที่มาทาบกันทะเลาะกันทั้งปี สำหรับคนกัมพูชา คุยไม่รู้เรื่อง เอาแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง เขาเอาทหารนำยิงเสร็จก็เจรจา ไปฟ้องพี่ใหญ่ว่าเรารังแก มุกตื้นๆถ้าเราไม่ทันก็เป็นเบี้ยไปเรื่อยๆ จากนี้ไม่รู้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเป็นอย่างไร หยุดยิงชั่วคราว การเจรจาก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไร ดูแล้ว ทำอีกอย่าง ต้องติดตามตอนต่อไป
"บ่อนกาสิโน สแกมเมอร์ คนไทยเอาเงินไปให้ บางทีกลับมาหน้าตกฟกช้ำ เอารถเข้าไป ไม่ได้เอากลับมา เอาไปจำนำ มีคนไทยเอาเงินไปซื้ออาวุธเพื่อมายิงคนไทย และอีกปัจจัยเร่งให้เปิดด่าน เพราะรายได้ลด แต่การเปิดด่านเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุยกันดูเรื่อง แต่หากคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องรีบเปิดด่าน
มีบางคนไปเป็นแสกมเมอร์ ก็ไม่ได้กลับมา กลุ่มทุนเอาเงินไปให้ผู้นำ ปัญหากัมพูชา ต้องคุยกับผู้นำกัมพูชาให้รู้เรื่อง ส่วนของคนไทยต้องคุยกันหลายคนเพราะเราเป็นประชาธิปไตย ยืนยันทหารไม่มีผลประโยชน์ ถ้าทำไม่ถูก กูก็ไม่ทำ ทหารตัดสินอะไรก็ต้องคุย ผู้บังคับบัญชา เราไม่ใช่เผด็จการ 100%"พลโทบุญสิน กล่าว
นอกจากนี้ พลโทบุญสิน ตอบคำถามนักศึกษาตอนหนึ่งกรณีความเป็นผู้นำในการสู้รบ 24 ชั่วโมงแรกว่า การบริหารจัดการในสภาวะวิกฤต ตนอยู่กับสิ่งเหล่านี้มาพอสมควร วันนั้นเป็นการตัดสินใจที่ทรมานใจมากที่สุดปิดปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนม ดงรักษ์ จังหวัดสุรินทร์
"ลูกน้องถามย้ำผมหลายรอบ ปิดแน่ไหมครับ ผมย้ำว่าปิด นี่คือคือความเป็นผู้นำ เพราะเมื่อปิดแล้วก็ยิงกันตามที่คาดการณ์ไว้ สถานการณ์ภายในประเทศเป็นอย่างไรไม่รู้ รู้แต่ว่าเราต้องเอา แผ่นดินคืนมาด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ เป็นผู้บังคับบัญชาต้องวิเคราะห์สถานการณ์ อย่าไปตายเอาดาบหน้า ก่อนรบจะเห็นแม่ทัพไปตรวจความพร้อมรบ บางคนบอกว่าแม่ทัพตรวจการรบ เอาหล่อ เอาเท่ แล้วแต่เขาจะคิด ยืนยันผมบัญชาการรบตลอดแนว"พลโทบุญสินกล่าวและว่า
ทำอย่างไรให้ประชาชนทั้งสองประเทศ กลับมา มีความสัมพันธ์ที่ดีเหมือนเดิมนั้น เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว ผู้นำคิดยังไง อยากคืนดีกับเราด้วยความบริสุทธิ์ใจทำได้หมด สังคมคนในประเทศกัมพูชาเชื่อผู้นำ
"แม่ทัพกุ้งพร้อมจูบปากกับแม่ทัพกัมพูชา ถ้าผู้นำเขามีความตั้งใจจริง กัมพูชาอยู่ที่ผู้นำ ถ้าผู้นำบอกกัมพูชา-สยาม ไม่ทะเลาะ ชั่วกัลปาวสาน ให้แม่ทัพบุญสิน-กับแม่ทัพกัมพูชากอดกัน แล้วทำให้ประชาชนรักกัน แต่ทุกวันนี้เขาทำแบบนั้นหรือไม่ โพสต์ข้อความออกมามีแต่เสี้ยม ต้องใช้เวลา มีกาวใจ เชื่อง่าไม่นานจะกลับมาเหมือนเดิมแต่ขึ้นอยู่กับผู้นำ" มทภ.2 กล่าวและว่า
การปลุกกระแสชาตินิยม ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกของทั้งผู้นำสองประเทศ เราจะเอาประเด็นไหนมาสร้างกระแสชาตินิยม กัมพูชาก็โจมตีเราว่าใช้แก๊สพิษ เรารังแก ทำให้คนกัมพูชาเกลียดชังคนไทย ในส่วนของไทยเราไม่ใช้วิธีนั้น แต่เรียกร้องด้วยความสามัคคี เป็นห้วงหนึ่งที่เราจะต้องกลับมาดูตัวเอง ดูคนไทยด้วยกัน ทหารรบหน้าแนวสูญเสีย ส่วนอีกซีกคนไทยทะเลาะกันได้อะไร คนไทยรักชาติ ศาสนพระมหากษัตริย์ ถึงเวลา ไทม์มิ่งได้ พี่น้องลุกฮือ ขอให้รักษาเรื่องนี้ เป็นส่วนหนึ่งต้องฉุกคิด เรื่องความเข้มแข็ง หากเราแตกสามัคคี เขากลั่นแกล้ง ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ทหาร ต้องทำให้คนไทยเข้มแข็ง
พลโทบุญสิน ยังกล่าวถึง เรื่องสิทธิมนุษยชน กรณีเด็กนักเรียนกัมพูขาอายุ13 ปีว่า ทหารไทยกับประชาชน อยู่ในหัวใจทุกคน น้องๆทหาร มองหน้ากันว่าจะยิงชุมชนหรือไม่ ทุกคนหันหน้าหนีหมด ทหารไทยปลูกฝังเรื่องพวกนี้ต้องเป็นสุภาพบุรุษ แต่กัมพูชายิ่งมั่ว ปืนก็ไม่แม่นโดนชาวบ้าน ประชาชนบาดเจ็บล้มตาย
"ความแค้นของคนไทย ส่วนหนึ่งอยู่ที่การกระทำผู้นำกัมพูชา ยิงเป้าหมายพลเรือน และเกิดจากทหารไทยที่บาดเจ็บล้มตาย แขนขาขาด ตาบอด ทำไมโรงพยาบาล ไม่ได้รักษาคนกัมพูชา นี่คือ ความแค้นอยู่เหนือมนุษยธรรม นักมนุษยธรรม ก็พูดอะไรมากไม่ได้เพราะทัวร์ลง
ทำไมคนกัมพูชาแห่กลับประเทศหลายแสนคน เพราะผู้นำกัมพูชาบังคับ ขู่ยึดบ้าน ยึดที่ดิน เอาสัญชาติออก เขาค้องการนำคนพวกนี้หากเป็นผู้ชายมาเป็นทหาร เด็กน้อยที่ไม่รู้อะไรด้วย ได้รับผลกระทบ สิ่งนี้เกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจของคนไทย ในห้วงนี้ลดแรงกระแทกสังคมให้น้องกลับไป เมื่อผู้นำเปลี่ยนความคิด มองว่าคนไทยพร้อมรับมาเรียน มีทุนการศึกษาให้ รับคนกัมพูชามารักษา ในโรงพยาบาลของไทย